จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โชว์ แชร์ เชื่อม เชิดชูเกียรติ สถานศึกษาลดปัจจัยเสี่ยงสำหรับเด็กปฐมวัย

สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ดำเนินงาน โครงการปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยง สำหรับเด็กปฐมวัย ร่วมมือกันตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพฤติกรรมและความสามารถด้านทักษะชีวิตเป็นภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติด สำหรับเด็กปฐมวัย ให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ปลอดภัยและเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ โดยมีสถานศึกษาเข้าร่วมโครงการครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาค 35 จังหวัด จำนวนกว่า 1,989 แห่ง เป็นสถานศึกษาทกุสังกัดกระทรวงและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก นอกจากนี้ทางโครงการได้มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม สร้างขวัญกำลังใจ พร้อมทั้งกระบวนการพัฒนาและยกระดับสถานศึกษาที่เข้าร่วมที่มีผลการดำเนินกิจกรรมระดับยอดเยี่ยมให้เป็นสถานศึกษาต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ ในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้เกิดการต่อยอด ความยั่งยืน และการขยายผลการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปในอนาคต เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับสถานศึกษาที่เป็นสถานศึกษาที่มีผลการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในการปลูกพลังบวก และสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็กระดับปฐมวัย ตรงตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” และเรียนเชิญท่านเยี่ยมชมนิทรรศการผลงาน และนวัตกรรมของแต่ละสถานศึกษา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานให้กับผู้บริหารและครูปฐมวัยที่เข้าร่วมโครงการฯ จึงได้จัดให้มีเวลาแสดงผลงาน สื่อสร้างสรรค์และนวัตกรรมใน     เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้โชว์แชร์เชื่อม  เชิดชูเกียรติให้กับสถานศึกษาต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ระดับภูมิภาคภาคใต้มีจังหวัดที่เข้าร่วมจำนวน 5 จังหวัด ดังนี้  ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต สงขลา ตรัง มีสถานศึกษาจำนวน 245 แห่ง ผู้เข้าร่วมเวทีที่จังหวัดชุมพร ครั้งนี้ จำนวน 140 คน 

ดร.วีระ แข็งกสิการ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงศึกษาธิการ ประธานเปิดงาน กล่าวว่า ณ วันนี้ ลูกศิษย์ของเราถูกรายล้อมรอบตัวไปด้วยสิ่งเสพติดและอบายมุข มีปัจจัยเสี่ยงมากมายเข้ามาวุ่นวาย คุณครูปฐมวัยสำคัญที่สุด การสร้างพลังบวกปลูกจิตใต้สำนึกไปกับการเจริญเติบโตของสมองเด็ก เป็นการฝังลึกที่ยากที่จะลืมเลือน การให้ความรู้ การเป็นครูผู้สอน เป็นการสะสมบุญเพราะงานเป็นคุณมีแต่ผลดีไม่เป็นอาชีพที่เบียดบังผู้อื่น ขอความร่วมมือของท่านผู้บริหารสถานศึกษาให้ความสำคัญกับหารพัฒนาเด็กในทุกมิติ ต้องปรับตัวจากผู้ดำเนินงานด้านการศึกษา ไปเป็นหน่วยกำกับดูแลเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์การจัดการศึกษา สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ สร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาให้เด็กมีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ส่งกำลังใจให้คุณครูทุกท่าน มีพลังกายใจ มีความสุขตลอดไป

นางสาวสุภัคมล ชอนวงศ์ ศึกษาธิการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยง สำหรับเด็กปฐมวัย มีสถานศึกษามีสถานศึกษาในจังหวัดชุมพร ประกอบด้วย สถานศึกษาต้นแบบ จำนวน 20 แห่ง และสถานศึกษาเครือข่าย จำนวน 42 แห่ง รวมทั้งสิ้น 62 แห่ง ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 62 คนและครูปฐมวัย จำนวน 78 คน รวมทั้งสิ้น 14 คน วัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการปลูกพลังบวกฯ ภายใต้สโลแกน“โชว์ แชร์ เชื่อม เชิดชูเกียรติ” โดยจัดกิจกรรมให้ผู้บริหารสถานศึกษา และครูปฐมวัยได้แสดงความคิดเห็นที่มีต่อการดำเนินงานโครงการปลูกพลังบวกฯ รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่ดี และมีการจัดนิทรรศการของสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนมันตานุสรณ์  โรงเรียนอนุบาลเมืองชุมพรวัดสุบรรณนิมิต และโรงเรียนอนุบาลปะทิว (บางสนพิพิธราษฎร์บำรุง)สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชุมพรสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 และเขต 2 รวมทั้งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ความร่วมมือในการประสานงานสถานศึกษาในสังกัด ให้เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนี้ 

นางสาวสรัญญา พราหมณี โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 77(บ้านเนินสันติ) กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้นำความรู้ที่ได้รับจากโครงการปลูกพลังบวกฯ นำไปพัฒนาทักษะชีวิตปลอดภัยปลอดภัยยาเสพติด โดยใช้สื่อสร้างสรรค์ เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม มีการวิเคราะห์ช่วยเหลือนักเรียน ทำความร่วมมือกับครูผู้ปกครอง พร้อมทั้งบูรณาการสอดแทรกในการกิจกรรมไปกับแผนการสอน จากการสอนเด็กพบว่าเด็กส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่กับพ่อ แม่ จะอยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย เป็นส่วนใหญ่ คุณครูจะผลิตสื่อนำไปให้เด็กทำร่วมกับผู้ปกครองและชุมชน โดยมีผู้ใหญ่ กำนัน ความภาคภูมิใจได้รับรางวัล OPEC Award นำบูรณาการกับการสอนทำให้โรงเรียนรู้ได้รับเป็นโรงเรียนพระราชทาน การนำชุดกิจกรรม ไปพัฒนาเด็ก ๆ ให้เห็นถึงโทษและพิษภัย พร้อมทั้งเด็ก ๆ ยังไปสื่อสารถึงผู้ปกครอง ทำให้ผู้ปกครอง มีความตระหนัก ไม่สูบและไม่ดื่มให้ลูกเห็น ทำให้ผู้ปกครองละอายแก่ใจ

กองบรรณาธิการ SDNThailand