จะบวชลูกทั้งที จัดงานใช้เงินมากกว่า 600,000 บาท ถึงแม้หวังประหยัดยังต้องมีเงินจัดงานมากกว่า 50,000 บาท คนยากจนจะบวชได้อย่างไร

เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มิ.ย.67 คณะทำงานขับเคลื่อนงานเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาสังฆะเพื่อสังคมภาคกลาง ประชุมค้นหารูปแบบโมเดลบวชสร้างสุขภายใต้ ความเชื่อ ค่านิยมของคนภาคกลาง เพื่อขับเคลื่อนบวชสร้างสุข  ณ วัดหนองกระเบียน ต.หนองกระเบียน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี นำโดย พระครูวิสารทธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระเบียน จ.ลพบุรี พระครูสุนทรวิริยาภิวุฒิ, ดร. นักวิชาการภาค เจ้าอาวาสวัดโคนอน จ.สิงบุรี  พระครูวินัยธรปัญญา จิตฺตปญฺโญ  ผู้ประสานงานงานภาค พร้อมด้วยพุทธอาสาด้านต่างๆ นำโดย รศ.ดร.กาสัก เต๊ะขันหมาก นักวิชาการภาค นางสาวภรธิดา เวียงสงค์ การเงินภาค และพุทธอาสาอีกจำนวนหนึ่งเข้าร่วมแลกเปลี่ยน โดยมีนายชัยณรงค์ คำแดง ผู้ช่วยเลขานุการมูลนิธิสังฆะเพื่อสังคม และผู้จัดการโครงการบวชสร้างสุข อำนวยการในเวที

ที่สำคัญผู้ร่วมแลกเปลี่ยนครั้งนี้มีทั้ง ทายกวัดที่เป็นปราชญ์ชาวบ้านทำหน้าที่แทบแทนเจ้าอาวาส อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน คณะกรรมการวัด สมาชิก อบต. ผู้นำกลุ่มสตรี ผู้ใหญ่บ้านหญิงคนใหม่ ร่วมให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนอย่างน่าสนใจอย่างยิ่งกับข้อมูล พบว่า ค่านิยมของชุมชนที่นี่การจัดงานบวชที่ผ่านมามีเลี้ยงแขกโต๊ะจีน รถแห่  เลี้ยงฉลองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่าใช้จ่ายมากกว่า 600,000 บาทตต่องาน ถึงแม้ ท่านพระครูวิสารทธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระเบียน และผู้นำชุมชน จะพยายามรณรงค์ เชิญชวนให้ชาวบ้านจัดงานบวชลูกหลานอย่างประหยัดแล้ว ที่ผ่านมาพบว่า

คณะทำงานขับเคลื่อนเครือข่ายสังฆะเพื่อสังคมภาคกลาง ได้เห็นโมเดลของวัดหนองกระเบียน ในรูปแบบการจัดงานบวชซึ่งเป็นค่านิยมของชุมชนที่มีความเชื่อต่อเนื่องมายาวนาน รูปแบบ “การเอางานบอกบุญ” ช่วยมา 500 คืน 1,000 เป็นวัฏจักร จัดงานต้องบอกบุญแขกจำนวณมากๆ มีมหรสพ รถแห่ โดยยึดเอาค่านิยมเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาพระธรรมวินัยเป็นที่ยึด  ดังนี้ ได้เห็นร่วมกัน ที่จะต้องมีการขยายผลหนองกระเบียนโมเดล เพื่อให้ชาวพุทธที่จะบวชได้รับประโยชน์สูงสุดตามหลักการทางศาสนาที่รับกุลบุตรเข้ามาบวช เพื่อ “ประโยชน์เกื้อกูลและเพื่อความสุขของชนหมู่มาก”

เพื่อปรับค่านิยมทางสังคมที่จัดงาน มุ่งตอบโจทย์ทางเศรษฐกิจ ลดค่าใช้จ่าย  มุ่งหน้าตาเจ้าภาพ มุ่งความสนุกสนานเกินไป มุ่งกระตุ้นให้เกิดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ส่งเสริมให้ทำผิดกฎหมายในวัด และทำให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เข้าถึงยาก ภายใต้หลักการใช้หลักธรรมนำโลก “พระแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุข”

คณะทำงานเครือข่ายภาคกลาง ต้องดำเนินการ 1)  คัดเลือก กลุ่มวัดแกนหลัก กลุ่มวัดต้นแบบ และกลุ่มวัดเครือข่าย ในพื้นที่ภาคกลาง/ปริมณฑล  แยกให้ชัดเจน  เพื่อที่จะออกแบบการสนับสนุน สนองงานสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ในประเด็นการขับเคลื่อนด้านต่างๆ ได้เหมาะสม และชัดเจนในจังหวะก้าวต่อไป และนำสู่การจัดงานบวชที่ประหยัด เรียบง่าย ยึดพระธรรมวินัย เริ่มจากผู้กล้าที่มีศรัทธา ใกล้วัด ใกล้ธรรม จัดงานต้นแบบ ในพื้นที่ภาคกลาง ให้เห็นเป็นรูปธรรม  ปรับค่านิยม “หยุดทำพระพุทธศาสนา ให้เป็นศาสนาที่เข้าถึงยาก” เพราะถ้าพระพุทธศาสนาเข้าถึงยาก จะจัดงานบวชทีต้องใช้เงินมากมายเหมือนชุมชนวัดหนองกระเบียน เท่ากับร่วมกันทำลายหลักการพระพุทธศาสนา และทำลายพระพุทธศาสนาเสียเองทั้งพระและชาวพุทธ


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.),

โครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะงานบวชสร้างสุขด้วยหลักพุทธธรรม,