การปั้นนักกีฬาให้เป็นทีม จึงจำเป็นต้องจริงจังกับมันเพราะเรากำลังพาเด็กไปถึงฝั่งฝัน
ความชอบในการเล่นกีฬา หนุ่มใต้ หน้าคม จากนครศรีธรรมราช นาย กฤตนัย พรหมวิหาร หรือโค้ชบอล มุ่งสู่เมืองหลวงตั้งแต่อายุ 13 ปีเพื่อตามหาความฝันว่าสักวันโตขึ้นอยากมีอาชีพเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ แต่เมื่อสถานการณ์ผลิกผันจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้อาชีพที่ตั้งใจไว้หยุดชะลอลง เพื่อรักษาตัวเอง
แต่ก็ไม่ท้อที่จะเลือกเส้นทางเดินในการกีฬา เหลังจากเรียนจบมัธยม ก็เข้าศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยศรนครนทร์วโรรจ คณะพละศึกษา จนเรียนก็อยากทำตามฝันที่ตั้งไว้ต่อ ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่เลือกที่จะเป็นครูและเป็นโค้ชให้กับเด็กๆที่อยากมีอาชีพที่ดีในวันข้างหน้า.และยังเป็นทั้งโค้ชทั้งเพื่อนให้กับเด็กให้คำปรึกษาทั้งการเล่นกีฬาและการใช้ชีวิตข้างนอกไม่ใช้ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำร้ายสุขภาพและอนาคตตัวเองในวันข้างหน้า.
–ตอนเรียนเรียนที่ไหนครับ–
ตั้งแต่ประถมเรียนอยู่ที่นครครับ พอจบ ป6 ก็มาเรียน มันธยมที่กรุงเทพมหานคร จนจบมัธยมเลยสอบเข้า คณะพละศึกษา ของมหาวิทยาลัยศรีนครินวโรจ
–แล้วในช่วงมหาลัยนี่เรียนที่ไหนครับ ตอนเด็กๆนี่ความฝันโตขึ้นอยากประกอบอาชีพอะไรอะครับ–
พอเริ่มได้เข้ามาในกรุงเทพ ความใฝ่ฝันเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปอยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ อยากเล่นลีคอาชีพ
–แล้วตอนเข้ามหาลัยเราทั้งเรียนทั้งฝึกไปช่วงนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ครับ–
เล่าย้อนไปก่อนนะครับ พอตอนช่วงมัธยมปลายก็เริ่มคิดละว่าเมื่อเข้ามหาลัยมันสามารถต่อยอดเข้าไปในลีคอาชีพได้นะ แต่พอเข้ามหาลัยก็ด้วยมันเกิดอุบัติเหตุ รถยนตร์คว่ำ ล้อชี้ฟ้าเลยครับ
–อาการตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ–
ผมนี่นั่งหลังคนขับแล้วก็หลับ หลับมาก่อนแล้วไปงานรับปริญญารุ่นพี่ ด้วยความเหนื่อยก็เลยหลับ ณ ตอนนั้นคิดว่าน่าจะรถตัดหน้าแล้วรถก็ผลิกคว่ำ ตัวผมนี่สลบไปประมานครึ่งวัน ช่วงนั้นตอนที่อยู่ในโรงบาลประมาณ 2 เดือน แล้วก็กลับมาพักฝื้นที่บ้านก็หลายเดือนอยู่ หลังจากนั้นรักษาตัวจนหายก็เลยมาเรียนต่อให้จบครับ
–ปัจจุบันตอนนี้พี่ทำอาชีพอะไรอยู่ครับ–
ตอนนี้ผมประกอบอาชีพเป็นครู โรงเรียนวัดนวลนรดิศ อยู่แถวท่าพระ กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันสอนอยู่ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2
–เป็นทั้งครูและเป็นโค้ช มีระเบียบวินัยยังไงบ้างสำหรับการฝึกเด็ก ๆนักเรียน–
อย่างแรกเลยก็ต้องเรื่องการเรียนครับ ก็ต้องมีความตั้งใจในเรื่องการเรียนด้วย ไม่ใช่ว่าจะมาเล่นกีฬาแล้วจะทิ้งการเรียน จะมาให้ทางโรงเรียนเนี่ย ช่วยอย่างเดียวก็ไม่ใช่ควบคู่กับไปเพราะว่า ในสมัยตอนผมเรียนก็ควบคู่ไปครับ กับกีฬา ก็ไปได้ถ้าเรามีระเบียบวินัยแล้วก็ในเรื่องของการจัดการเวลาได้ดีและควบคู่กันได้
–การปรับตัวกับช่องว่างระหว่างช่วงวันมันปรับตัวอยากไหม–
ตอนแรกๆผมก็ได้มีการแบบไปลองฝึกสอนหรือว่าไปอยู่โรงเรียนอื่นมาก่อนก็ไม่อยากเท่าไหร่
-ทีมในโรงเรียนที่สอนอยู่เคยส่งแข่งประเภทไหนบ้างครับ-
คือ ต้องบอกก่อนว่าผมเพิ่มย้ายมาโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ได้ 6 เดือนครับ ก็มีส่งแข่งรายการต่าง ๆรายการใหญ่รายการที่เขาจัดของกรมพละ อะไรอย่างเนี่ยครับก็ส่ง เกือบทุกรายการ
-ได้รับรางวัลอะไรบ้างไหม-
ตอนนี้ยังครับ แต่เมื่อก่อนที่ทำทีมเกี่ยวกับเด็กเยาวชน ก็มีทีม ด้วยความคิดของเพื่อนอยากจะมีทีมเข้าแข่งขันรายการได้ไปเล่นรายการ FA cub ชิงบแชมป์ประเทศไทยก็ได้เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายอยู่ 2 ปีครับ
-ทีมของตอนนี้อยู่ใน step ไหนครับ-
ของโรงเรียนที่สอนและทำทีมอยู่ตอนนี้ ก็พึ่งที่จะเริ่มพัฒนา เรื่อย ๆ ครับ เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ
-เป้าหมายต่อไปจะพาทีมไปในทางไหน-
อันดับแรกก็ อยากจะส่งไปเล่นถ้วย ก.ของกรมพละศึกษาเป็นรายการของกรมพละศึกษา ก็จะมีแบ่งรอบทั่วไป ถ้าผ่านรอบทั่วไปก็จะขึ้นไปเล่นถ้วย ข. พอขึ้นไปเล่นถ้วย ข.แล้วก็จะขึ้นไปเล่น ถ้วย ก.คือเป็นถ้วยที่สูงสุดแล้วครับตอนนี้ทีมผมอยู่ทั่วไปอยู่ครับ เพิ่งจะเริ่มคัดน้อง ๆนักกีฬา
-ในการมาอบรมโค้ช SDN ได้อะไรกลับไปพัฒนาเด็กๆบ้าง-
1เลยได้ คือผมบอกเลยผมไม่ค่อยได้อบรมโค้ชทางด้านฟุตซอล เล่นมาตั้งแต่เด็กก็จริงแต่ว่าก็ยังไม่ได้มีโอกาศไปอบรมแบบนี้อย่างจริงจัง เพราะว่า มีค่าใช้จ่ายสูง ผมก็เลยไม่พร้อมในการเข้าอบรม แต่ว่าถ้ามีรายการไหนหรือ กจกรรมอบรมโค้ชที่ ฟรี ให้กับโค้ชที่อยากจะพัฒนาโค้ชผมก็อยากที่จะมา อย่างอบรมโค้ชแบบนี้เหมือนกับเปิดโอกาศให้โค้ชหลายๆคนที่อยากพัฒนาตัวเองแต่ไม่พร้อมเรื่องการเงิน
–อยากฝากอะไรถึงน้องเยาวชตอนนี้ที่เริ่มเข้าไปลองสิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ณ ตอนนี้-
1เลย แอลกอฮอล์คือสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว เด็กๆก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แทนที่เราจะไปหมกหมุ่นกับเรื่องแอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติดทั้งหลายหันมาเล่นกีฬาดีกว่า มุ่งหน้าให้กับการเรียนดีกว่า เพราะว่าสิ่งสุดท้ายแล้วเนี่ย กีฬา หรือว่า เรื่องการเรียนเนี่ย มันก็จะนำไปสู่อาชีพที่ดีวันข้างหน้า
-ความสุขของพี่คืออะไร-
มีความสุขที่ได้ทำฟุตซอล ของโรงเรียน จะอยู่กับกีฬาที่ผมเคยคลุกคลีมาแล้ว20ปี เราคุ้นเคยอยู่กับวงการนี้
–แล้ววางเป้าหมายชีวิตต่อจากนี้ไว้อย่างไรบ้างครับ–
ต่อไปก็อยากจะเป็นเหมือน อาจารย์ บุญเลิศ เจริญวงศ์ อยากเป็นคนที่ให้ความรู้ นำมาพัฒนาโค้ช อยากจะแชร์ให้ความรู้กับสิ่งที่ได้เรียนมาได้ฝึกอบรมมา เพื่อที่จะให้เพื่อนๆโค้ชได้นำไปพัฒนาเด็ก ๆกันต่อไปครับ