วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 นายวิรุธ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นำหัวหน้าส่วนราชการประกอบด้วยสำนักงานวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนา อำเภอเมืองยโสธร สถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ร่วมกับ ผู้แทนจากเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาฯ อีสานล่างที่ร่วมขับเคลื่อน (อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร) มูลนิธิสังฆะเพื่อสังคม และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ลงนามบันทึกความร่วมมือ MOU หนุนเสริมบทบาทพระสงฆ์ที่ได้ขับเคลื่อนงานบวชสร้างสุข ปรับค่านิยมสังคมวิถีใหม่ บวชสร้างสุข เน้นพิธีกรรมที่เรียบง่าย ยึดพระธรรมวินัย ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
โดยในพิธีการครั้งนี้ มี พระเทพวงศาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดยโสธร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ วัดบูรพา ต.ทุ่งแต้ อ.เมือง จ.ยโสธร
ก่อนลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอข้อมูลสถานการณืงานบวช ที่เป็นปัญหา คือ
จากการที่ค่านิยมเรื่องการจัดงานบวชในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ได้เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน หลายงานก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การมีมหรสพขนาดใหญ่ ดนตรีฉลอง มีรถแห่เสียงดัง กระตุ้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นยั่วยุ ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท ความรุ่นแรงฆ่ากันตายในงานบวช สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายต่อชุมชน ระหว่างชุมชน และสังคม มีค่าใช้จ่ายมหาศาลในการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ด้วยค่านิยมเชื่อว่าแสดงถึงฐานะทางสังคมของเจ้าภาพ เกิดหนี้สิน ส่งผลให้เกิดภาพลบต่อเจ้าภาพที่จัดงานแบบเรียบง่าย ประหยัด ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยกลับถูกมองว่ายากจน ซึ่งถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงพระพุทธศาสนาของชาวพุทธในระยะยาว และส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมอันดีงามของการบวชในสังคมไทย
เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกหน่วยงานองค์กรในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ในการร่วมกันลดปัจจัยเสี่ยง สร้างปัจจัยหนุนเสริมให้เกิดขึ้นเป็นสังคมสุขภาวะ และเป็นการเอื้ออำนวยให้ลูกหลานชาวพุทธได้เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาได้ง่ายยิ่งขึ้นตามแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จัดงานบวชสร้างสุขแบบ “บวชวิถีใหม่ ยึดพระธรรมวินัย ห่างไกลอบายมุข ชุมชนอุ่นใจ ประหยัด เรียบง่าย และปลอดภัย” เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการบวชอย่างแท้จริง และเป็นการสร้างวัฒนธรรมวิถีใหม่ให้เกิดขึ้น คือ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ศึกษาพระธรรมวินัยและนำไปปฏิบัติ ให้ถึงปฏิเวธ เพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดาและหากลาสิกขาออกมาแล้วสามารถนำหลักธรรมมาดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสังคม