เชียงคาน ดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ริมน้ำโขงอันเลื่องชื่อ ที่หลายคนต่างเฝ้าถวิลหา อยากจะมาเยือนให้ได้สักครั้ง ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ กอปรกับความร่ำรวยทางวัฒนธรรม ที่ผนวกเข้ากันได้อย่างประจวบเหมาะ ทำให้เชียงคาน กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยม ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมานานเนิ่น
ท่ามกลางสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติอันตระการตา เช่น แก่งคุดคู้ ภูทอก และมรดกทางวัฒนธรรมที่พรั่งพร้อม ที่แฝงฝังอยู่ในความเป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การตักบาตรตอนเช้า การขี่จักรยานแทนการขับรถยนต์ การเดินเที่ยวไปในกลุ่มอาคารเก่าย้อนยุค และการหลับฝันในที่พักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งดึงดูดผู้คนให้มาเยือนดินแดนแห่งนี้อยู่อย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปี ใครเลยจะรู้ว่า เชียงคาน ยังมีจุดเด่นอีกประการ ที่นับวันจะถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ ความเป็นเมืองปลอดเหล้า ซึ่งในวันนี้ “สนสามใบ” จะพาไปพิสูจน์กันว่า เมืองท่องเที่ยวติดอันดับอย่างเชียงคานนั้น ปลอดเหล้าได้อย่างไร
ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเชียงคานนั้น อยู่ที่ถนนเลียบชายโขง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลเชียงคาน ที่มีคุณหล่ง แก้วนิรันดร์ นายกเทศมนตรีผู้นำการเปลี่ยนแปลง และคุณวิรัตน์ โภชะ ปลัดเทศบาลที่รักในความเป็นท้องถิ่นของตนเองเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ 2 ท่านนี้ถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการพลิกจากเมืองท่องเที่ยวที่มีแต่เหล้าเบียร์เต็มพื้นที่ ดังวลีที่ว่า “มาเชียงคาน แล้วต้องคลาน (เพราะเมาแอ๋)” ให้กลายเป็นเมืองที่มีแต่ความสงบ ปราศจากความรุนแรงใดๆ แต่ยังคงความน่าเที่ยวเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน
คุณวิรัตน์กล่าวว่า แต่เดิมเชียงคานขึ้นชื่อเรื่องคนเมามาก เพราะมีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายพื้นที่เข้ามา ซึ่งในตอนแรกๆ ทุกคนต่างคิดว่าการมีเหล้ายาปลาปิ้งเยอะๆ นั้นเป็นเรื่องดีเพราะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่พออยู่ไปๆ เมื่อมีคนเมาเยอะขึ้น ปัญหาการทะเลาะวิวาทกันก็ตามมา มีนักท่องเที่ยวถูกลูกหลงไปหลายราย ทำให้ชื่อเสียงที่ดีงามของเชียงคานต้องมัวหมองลงไป บางคนไม่กล้ามาเที่ยวอีก ทุกคนจึงคิดได้ว่า ถ้าจะส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่แท้จริง ต้องไม่อิงกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลงานบุญต่างๆ ที่ผู้คนจะมาเยอะเป็นพิเศษ
เชียงคานนั้น มีงานบุญประเพณีปลอดเหล้าอยู่หลายงาน ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นงานสงกรานต์ถนนข้าวหลามปลอดเหล้า งานแข่งเรือปลอดเหล้าในวันออกพรรษา และงานเทศกาลอาหารท้องถิ่นกินสบายสบาย “ปูสาด กินข้าว เว้าซุมกัน บ่มีเหล้าเบียร์” ซึ่งแต่ละงานนั้น ล้วนคงคุณค่าแท้ของงานบุญประเพณีเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่ดีงามเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบทอด อาทิ กิจกรรมผาสาดลอยเคราะห์ การประกวดปราสาทผึ้งจากคุ้มวัดต่างๆ และการไหลเรือไฟในคืนวันออกพรรษา การแสดงของชาวไทยดำในงานเทศกาลอาหาร เป็นต้น ที่สำคัญ ทุกงานล้วนแต่การันตีได้ว่า สามารถมาเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล เพราะปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแน่นอน
วันว่างครั้งต่อไป หากตรงกับช่วงเทศกาลงานบุญประเพณีต่างๆ แล้วล่ะก็ “สนสามใบ” อยากจะขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งเชียงคาน ในมุมมองใหม่ๆ นี้ดูบ้าง แล้วท่านจะพบว่า ช่วงเวลาทุกนาทีที่ท่านได้ใช้ไปในเมืองท่องเที่ยวปลอดเหล้าแห่งนี้ มันช่างมีค่าเกินกว่าจะสรรหาคำมาบรรยายได้จริงๆ.