สสส.ลงพื้นที่แหล่งเรียนรู้ หนุนชุมชนสู้เหล้าตำบลเมืองเวียง อำเภอเวียงสระ จ.สุราษฎร์

สสส.ลงพื้นที่แหล่งเรียนรู้ หนุนชุมชนสู้เหล้าตำบลเมืองเวียง อำเภอเวียงสระ  จ.สุราษฎร์ ชมผลงานการขับเคลื่อนเชื่อมร้อยความเชื่อและประวัติศาสตร์ ชูนวัตกรรมใหม่ หวังเยาวชนแกนนำบูรณาการพื้นที่ต้นแบบ เพื่อขยายผลการรณรงค์งดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

นพ.คำนวน อึ้งชูศักดิ์ คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1  สำนักงานกองงทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) กล่าวในการลงพื้นที่เยียมชม นวัตกรรมในแหล่งเรียนรู้ชุมชนคนสู้เหล้า จังหวัดสุราษฎร์ดำเนินงานเกี่ยวกับเรื่องการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า “ในระยะ10ปี มีความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง เรามีพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้มีหน่วยงานต่างๆให้ความร่วมมือ ปัจจุบันเห็นได้ชัดเจนว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวบั่นทอนสุขภาพ และพัฒนาการทางสังคมและประเทศชาติ ดังรั้นทั้งภาครัฐและเอกชนจึงมีบทบาทในการทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าภาค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ 2.7 ล้านคนที่รัฐยังต้องดูแลซึ่งหน่วยงานต่างๆต้องเข้ามาร่วมกันแก้ไข ดำเนินการ ตลอดจนการช่วยเหลือป้องกันนักดื่มหน้าใหม่โดยการสกัดการเข้าถึงแอลกอฮอล์ของเวชนก่อนวัยอันควร คืออายุต่ำกว่า 20 ปี”

หลังจากนั้น คณะได้ลงพื้นที่ ชมแปลเกษตรของคนเลิกเหล้าที่ได้รับโอกาสการดำเนินแนวทางตามพ่อ ด้วยวิถีเศรษฐกิจพอเพียงของนายชรินทร์ ชูชื่น คนหัวใจเหล็กเลิกเหล้า ซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ แห่งหนึ่งเล่าว่า เคยดื่มเหล้าแล้วเกิดเป็นอัมพฤกษ์จึงเลิกเหล้า หลังจากหายดีแล้วทางบริษัทฯ เห็นว่าเลิกเหล้าได้ 2 ปีแล้วและเป็นคนที่ตั้งใจทำมาหากินจึงให้ที่ดินมาทำการเกษตร  ต่อด้วยพื้นที่ต้นแบบแหล่งเรียนรู้ตำบลเมืองเวียง ใช้ประวัติศาสตร์ยึดโยงกับวัฒนธรรมความเชื่อ หล่อหลอมวิถีชุมชน โดยปราญชุมชนที่ได้บ่มเพาะต้นกล้าเยาวชน ให้โอกาสจากรุ่นต่อรุ่น เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลาน

ส่วนนางเพลินจิต ชูชื่น ภรรยาคนต้นแบบเลิกเหล้า มีความตั้งใจเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาในชุมชน พื้นที่ชุมชน เวียงสระ ได้ใช้ศิลปะวัฒนธรรม ของมโนราห์และหนังตะลุงเพื่อเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมโดยสอดแทรกกระบวนการรณรงค์ในการเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ตลอดจนยาเสพติดและการพนันอีกด้วย อีกทั้งได้ใช้ความเชื่อของมโนราห์มาใช้ในการรักษาโรค และได้ทำวิจัยร่วมกับฝ่ายท้องถิ่นเกี่ยวกับมโนราห์ เพื่อนำศิลปะวัฒนธรรมต่างๆไปเผยแพร่มากกว่า 10 ประเทศ

สำหรับในพื้นที่ตำบลเวียงสระได้พบกับนายหนังรุ่นใหม่ นายธิติสรรค์ เลี่ยนศิริ แกนนำรณรงค์ เปิดเผยว่า ได้เข้ามารู้จักกับเครือข่ายงดเหล้า ร่วมกิจกรรมรณรงค์ ตั้งแต่ปี 2560 ได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง โดยการไม่สูบ ไม่ดื่ม นอกจากนี้ยังใช้ศักยภาพและความสามารถที่มีคือ การนำหนังตะลุง มาเป็นสื่อรณรงค์ให้คนเลิกเหล้า เช่นการไปเล่นให้น้องๆนักเรียนบ้าง น้องๆเยาวชนที่ก้าวพลาดที่อยู่ในสถานพินิจ โดยใช้เป็นกลอนบอก ชวนเพื่อนฝูงและน้องๆ ให้ตระหนักจากโทษภัยของแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในครอบครัวตนเองได้อีกด้วย

ด้านอาจารย์รัฐพล รัตนโชติ กล่าวว่า ได้ใช้กิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์  ทำให้เยาวชนเห็นคุณค่าในตนเอง และช่วยให้เด็กกลุ่มเสี่ยงกลับมามีอนาคตที่สดใสอีกครั้ง การจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนได้นั้น ต้องเริ่มจากตนเองก่อน นั่นคือปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ ซึ่งถึงแม้จะค่อนข้างยากอยู่ แต่ที่สุดแล้วด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการเป็นต้นแบบที่ดีแก่เด็กๆ โดยเฉพาะการที่ต้องเป็นวิทยากรสอนเด็ก จึงทำให้ อ.เลิกเหล้าได้ในที่สุด ก่อนที่จะขยับต่อสู่ระดับชุมชน ซึ่งที่เห็นได้ชัดคือ งานบวช ที่เพิ่งจัดงานบวชแบบปลอดเหล้าที่บ้านของ อ. ซึ่งเป็นการจัดงานบวชปลอดเหล้าได้เป็นครั้งแรกของชุมชนเมืองเวียง และสามารถช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 100,000 บาท ทั้งยังลบคำพูดของคนที่เคยบอกว่างานศพไม่มีทางที่จะปลอดเหล้าได้ลงเสียสนิทอีกด้วย

ทั้งนี้ นายไพบูลย์ นุ้ยเจริญ รองนายกเทศมนตรี ตำบลเมืองเวียง กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลได้สนับสนุนกิจกรรมและขับเคลื่อน การทำงานโดยนำความรู้และการปฏิบัติการจากระดับนโยบาย นำมาสู่ธรรมนูญชุมชน  จากบริบทของชุมชนท้องถิ่นจริงๆ เทศบาลจะต้องดูแลทุกๆประเด็น เริ่มจากการดูแลรักษาสุขภาพของพี่น้องในชุมชน ดูแลประชาชน ในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด เรื่องเหล้า โดยครอบคลุมตั้งแต่เยาวชน และวัยทำงาน ในด้านการจัดการคุณภาพชีวิต เทศบาลเมืองเวียงได้ร่วมกับรพ.สต. ตำบลการจัดการคุณภาพชีวิต และได้ที่ 1 ระดับจังหวัด ได้มีการประชุมวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาในชุมชนว่ามีอะไรบ้างและหาแนวทางดำเนินการเพื่อแก้ไข สำหรับประเด็นรณรงค์งดเหล้า ลดอุบัติเหตุทางท้องถนน เราก็ได้มีการดำเนินการต่อเนื่องควบคู่ไปด้วย

ทั้งนี้ในกิจกรรมดังกล่าวมีนายอำเภอนายสุพัชรพงศ์ วรประดิษฐ์ นายอำเภอเวียงสระ ให้การต้อนรับ  คณะผู้ดูงานเยี่ยมชมพื้นที่ฯ และได้นำเสนอการทำงานที่ปฏิบัติการเชื่อมโยงเกี่ยวกับงานประเด็นสุขภาวะของคนในพื้นที่..มีสติ มีเงินเหลือพร้อมสู้ทุกวิกฤติอีกด้วย.










นักสื่อสาร องค์กรสุขภาวะ