วันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนบน ภายใต้การสนับสนุน จากสำนักงานกองทุนสนุบสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชมรมอาสาสมัครเครือข่ายงดเหล้า หรือเรียกว่า อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) ภาคอีสานตอนบน ณ หอประชุมธรรมาภิบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์
โดยมีเจ้าอธิการแดง ปญฺญาวโร เจ้าคณะตำบลบึงวิชัย (เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาภาคอีสาน) อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวสร้างพลังใจประชาคมงดเหล้าภาคอีสานตอนบนและคนหัวใจเพชร
“สิ่งที่ทำเป็นการช่วยเหลือให้คนมีสุขภาพดี คนที่สามารถเลิกเหล้าได้ถือว่าเป็นคนมีจิตใจที่เข้มแข็ง สวยงามจากข้างในเพราะเป็นคนที่มีใจความปรารถนาที่จะทำสิ่งดี ก็ขอให้รักษาสิ่งดีงามข้างในนี้ไว้”
เวทีครั้งนี้มีชมรม อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) 12 ชมรมคือ ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลดงบัง, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลกู่สันตรัตน์, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลหองไผ่, ชมรมอสม.ตำบลหนองกุง, ชมรมคนหัวใจเพชรตำบลทุ่งกุลา, ชมรมคนหัวใจเพชร เลิกเหล้าตลอดชีวิตตำบลโพนสูง, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)บ้านหัวฝาย, ชมรมอ.สคล(คนหัวใจเพชร)บ้านโคกเครือ, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลหองภัยศูนย์, ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลหนองซน,ชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลบึงโขงหลงและชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร)ตำบลนาดี มีเสริมพลังใจความภาคภูมิใจในการเข้ามามีส่วนร่วมในชมรมฯและการชวนคน ลด ละ เลิกเหล้า การถอดบทเรียนการขับเคลื่อน ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแต่ละชมรม 5 ส่วน คือ 1.แรงบันดาลใจการจัดตั้งชมรม 2.บทบาทและภารกิจ 3.การจัดสภาพแวดล้อม 4.ผลงานที่สำคัญของชมรม 5.การเชื่อมกองทุนสุขภาพตำบล และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 12 ชมรม ทำให้ชมรมคน อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) ภาคอีสานตอนบนมีการขับแนวทางในการเชื่อมกองทุนสุขภาพตำบล การส่งเสริมอาชีพคนเลิกเหล้า และจะยกระดับให้มีจัดตั้งกองทุนชมรม อ.สคล. (คนหัวใจเพชร) เพื่อดูแลสมาชิกและช่วยเหลือคนในชุมชน
นอกจากนั้นชมรม อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานชุมชนคนสู้เหล้าบ้านโคกเครือ ตำบลอุ่มเม่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยได้รับความกรุณาพระครูโสภณวินัยวัฒน์ เจ้าคณะยางตลาด เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายประจักษ์ ภูแลขำ นายกเทศมนตรีโคกศรี เป็นประธานฝ่ายฆารวาส กล่าวตอนรับชมรม อ.สคล.(คนหัวใจเพชร) 12 ชมรม ภาคอีสานตอนบน ในการศึกษาดูงานชุมชนคนสู้เหล้าบ้านโคกเครือ เป็นการทำงานร่วมกัน บ้าน วัด เยาวชน ในการขับเคลื่อนงานปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้วยสโลแกนจากพระครูโสภณวินัยวัฒน์
“คนโคกเครือห้ามตายก่อนอายุ 80 ปี”
โดยทางชุมชนมีฐานเรียนรู้ 4 ฐาน คือ 1.ฐานคุณธรรม จริยธรรม 2.ฐานงานบุญปลอดเหล้า 3.ธนาคารความดี 4.เศรษฐกิจพอเพียง
นายอภิสิทธิ์ ภูชัยแสง ผู้ใหญ่บ้านโคกเครือ กล่าวว่า “ชุมชนบ้านโคกเครือเริ่มต้นจากพระครูโสภณวินัยวัฒน์ เห็นปัญหาเวลาจัดงานศพจึงมีการขับเคลื่อนงานศพปลอดเหล้า และขยายเป็นงานบุญกฐินปลอดเหล้า งานบวชปลอดเหล้า และการชวนคนลด ละเลิกเหล้า โดยใช้โอกาสงดเหล้าเข้าพรรษาเชื่อมกับการออมเงินค่าเหล้าฝากผ่าน “ธนาคารความดี” และส่งเสริมอาชีพให้กับคนเลิกเหล้า จัดตั้งเป็นกองทุน ช่วยเหลือกันในชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย บ้าน วัด หน่วยงาน ชมรม อ.สคล.และเยาวชนในตำบลอุ่มเม่าเพื่อการให้เกิดพื้นที่รูปธรรม”
นายสมพงษ์ บุญตาท้าว คนหัวใจเพชรตำบลหนองซน ตัวแทนจากชมรมอ.สคล.(คนหัวใจเพชร 12 ชมรม ได้แต่งบทกลอนจากเรียนรู้ครั้งนี้ กล่าวว่า
“ ขอบพระคุณทีมงานบ้านโคกเครือ
ที่เอื้อเฟื้อแหล่งเรียนรู้มุ่งมีฝัน
พาทีมงาน อ.สคล.ช่วยแบ่งปัน
ร่วมสร้างฝันคุณค่า พาทำงาน
มีหลวงพ่อท่านพระครูเจ้าคณะ
พาลด ละ เลิกสุรา พาประสาน
ท่านนายก ผู้นำทางการทำงาน
ใหญ่อภิสิทธิ์ผู้ประสานทุกงานไป
ทั้งสี่ฐานสุดยอดงานเป็นต้นแบบ
ตามติดแนบปฏิบัติธรรมนำสมัย
ลดเลิกเหล้าทำงานบุญร่วมบวชใจ
นำพาสู่อาชีพความพอเพียง
เยาวชนคนเก่งเร่งปลูกสร้าง
ชี้นำทางปลูกไว้ ช่วยส่งเสียง
ปลูกความรัก ความผูกพัน ไม่ลำเอียง
ความพอเพียง เป็นแบบอย่างสร้างชุมชน
ขอขอบคุณอย่างจริงใจให้อีกครั้ง
ขอปรบมือดังๆทุกแห่งหน
เชิญทุกท่านปรบมือทุกๆคน
ให้ชุมชนต้นแบบบ้านโคกเครือ”
จาก 12 ชมรม ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนการทำงานในการให้คนในชุมชนลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการได้มาเรียนรู้ในชุมชนคนสู้เหล้าพื้นที่จริง ทำให้ชมรมได้ทบทวนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในชมรมและชุมชนคนสู้เหล้าต่อไป