สุขได้ด้วยการแบ่งปัน กับ น้องปูน ด.ญ.นิธิการ พูลเกษม

หากพูดถึง วันเด็กแห่งชาติ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงภาพเก่า ๆ ของตัวเองในวัยเด็ก ที่โรงเรียนจะจัดกิจกรรมให้ร้อง เล่น เต้น อย่างสนุกสนาน แลกของขวัญในห้องเรียน เล่นเกมมีของรางวัลแจก มีขนมและของอร่อยให้กินกับเพื่อน ๆ นึกถึงความสุขในช่วงเวลานั้น ก็อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

แม้วันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ภาพบรรยากาศที่คุ้นเคยของวันเด็กแบบเมื่อครั้งในอดีต ก็ยังมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ตามสถานที่หน่วยงานราชการ เอกชน ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

วันเด็กแห่งชาติปีนี้ พาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “วันเด็กวิถีใหม่ ไร้อบายมุข สุขได้ด้วยการแบ่งปัน” ผ่านการบอกเล่าความรู้สึกของ “น้องปูน ด.ญ.นิธิการ พูลเกษม” นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สาวน้อยนักกิจกรรมสร้างสรรค์ สมาชิกแกนนำสภานักเรียน โรงเรียนอนุบาลวัดพิชัยสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ

วันเด็กแนวใหม่ น้องปูนกับการแบ่งปันไร้อบายมุข 

มิติใหม่ของการจัดงานวันเด็ก ที่ไม่เด็กแบบเมื่อก่อนแล้ว มีความพิเศษที่มากกว่า เมื่อก่อนรูปแบบการจัดงานวันเด็ก จะมีกิจกรรมแจกของขวัญ แจกทุนการศึกษา จัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ร้อง เล่น เต้น สนุกสนาน มีของรางวัลให้ เด็กจะเรียนรู้แค่การ “เป็นผู้รับ” ทางเดียว บางที่กิจกรรมในวันเด็กผู้ใหญ่ก็มักจะตั้งวงสังสรรค์

แต่วันเด็กวิถีใหม่นี้ ไร้อบายมุข สุขได้ด้วยการแบ่งปัน มีความต่างที่สร้างสรรค์ เพราะเราชวนให้เด็ก ๆ ได้รู้จักกับการเป็น “ผู้ให้” ปลูกฝังค่านิยมแห่งการแบ่งปัน มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ และเห็นคุณค่าของตัวเอง โดยไม่พึ่งพาอบายมุข

น้องปูน บอกเล่าความรู้สึกถึงการทำกิจกรรม วันเด็กวิถีใหม่ ไร้อบายมุข สุขได้ด้วยการแบ่งปัน ที่โรงเรียนจัดขึ้นในปีนี้ว่า “… หนูดีใจมากค่ะที่ได้ทำกิจกรรมแบบนี้ ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่จะมีการจัดกิจกรรมให้เต้น ประกวดร้องเพลง แล้วก็มีของรางวัลแจก ปีนี้คุณครูพาไปมอบส่งของให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน คุณครูให้นำของที่พวกหนูไม่ได้ใช้แล้วไปแบ่งปันใหักับน้อง ๆ แล้วก็ไปหาคุณตา คุณยาย ที่บ้านพักคนชรา เอาของใช้ที่จำเป็นไปให้ แล้วก็ได้กอดคุณตา คุณยายด้วยค่ะ หนูดีใจมากที่มีโอกาสได้ทำแบบนี้”

“กอด” ของขวัญวันเด็กที่ส่งผ่านจากความรัก เรียนรู้การเป็นผู้ให้ ส่งต่อความสุขใจถึงผู้รับ

เมื่อถามถึงความพิเศษที่ทัชใจจากกิจกรรมวันเด็กที่ได้ทำในปีนี้ น้องปูนเล่าว่า “…ตอนที่ไปบ้านพักคนชรา แล้วเอาของใช้ไปให้ พวกหนูพาคุณตาคุณยายที่บ้านพักคนชราเต้นแอโรบิกออกกำลังกายด้วยค่ะ แล้วก็เข้าไปกอดคุณตาคุณยาย ต่างคนต่างกอดกัน เขาก็ร้องไห้ หนูก็ร้องไห้ไปด้วย คุณตาคุณยายที่นั่นบอกว่า ดีใจที่พวกหนูไปหา ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีลูกหลานมาหา หรือมากอดแบบนี้เลย เขาดีใจมาก ๆ หนูได้ฟังแล้วก็ร้องไห้เลยค่ะ น้ำตาไหล รู้สึกสงสาร และบอกกับตัวเองว่า หนูโชคดีที่สุดที่ตัวเองยังมีตากับยายอยู่ที่บ้าน ทำให้หนูเห็นคุณค่าของครอบครัว รักพ่อกับแม่ รักคนที่บ้านมากขึ้นค่ะ

ถามว่าจัดวันเด็กแบบนี้ดีกว่าแบบเดิมไหม หนูอยากบอกว่า มันดีมาก ๆ ค่ะ ได้ทำเพื่อผู้อื่น หนูรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้ให้ พอกลับมาถึงโรงเรียน คุณครูก็ถามว่ารู้สึกยังไงกันบ้าง ทุกคนที่ไปก็ร้องไห้ค่ะ หนูเชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ไปด้วยกันก็รู้สึกเหมือนกับหนู และก็อยากจะทำแบบนี้ต่อไปค่ะ”

น้องปูน เล่าอีกว่า นอกจากบ้านพักคนชราแล้ว ยังได้นำของเล่น เสื้อผ้า หนังสือ รองเท้าที่ไม่ได้ใช้แล้ว นำไปมอบให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน ดีใจที่ได้ให้ของเหล่านี้กับน้อง ๆ เพราะอย่างน้อยของที่ไม่ได้ใช้แล้ว ยังสามารถไปสร้างความสุขให้กับคนอื่น ๆ ได้ ที่สำคัญเป็นการใช้ของอย่างรู้คุณค่าอีกด้วย

มากกว่าการแบ่งปัน คือ การได้รู้คุณค่าในตัวเอง 

เรื่องราวของน้องปูนที่แชร์ให้ฟัง ชวนให้ใจฟูมาก ๆ สัมผัสได้ถึงความสุขแบบหัวใจพองโตที่น้องได้รับ และสำคัญที่สุด ทำให้น้องได้เห็นคุณค่าของการแบ่งปัน การทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ มากกว่าการเป็นผู้รับ ได้ช่วยเหลือผู้อื่นและปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี ทำให้เรียนรู้ว่า การเป็นผู้ให้มีความสุขมากแค่ไหน และเชื่อมั่นเสมอว่า การที่เด็กได้มอบสิ่งดี ๆ ให้กับผู้อื่น จะทำให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเอง และเมื่อเห็นคุณค่าในตัวเองแล้ว เด็กจะไม่พาตัวเองไปพึ่งพาอบายมุขหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อาจนำไปสู่ปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพได้

ทุก  ๆ การแบ่งปัน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนมีความหมายต่อผู้อื่นทั้งสิ้น 

มาร่วมสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ไปด้วยกัน วันเด็กปีนี้ ชวนน้อง ๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ แบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับผู้อื่น เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น แบ่งปันสิ่งของให้กับผู้ที่ขาดแคลน การช่วยและให้กำลังใจผู้อื่น นอกจากจะทำให้ผู้รับมีความสุขแล้ว ยังทำให้เราในฐานะ ผู้ให้ มีความสุขด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมให้เด็กเติบโตไปเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และพร้อมช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อสังคมที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน 

สุขสันต์วันเด็กแห่งชาติ

นักสื่อสารสุขภาวะดิจิทัล และ Data Journalism