หยก-อชิรญาภรณ์ กำใจบุญ ดาวรุ่งนักตบลูกยางสาวไทย U21

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย หรือที่เรียกกันติดปากว่า “นักตบลูกยางสาวไทย” ต่างเป็นที่สนใจของคนไทยไม่แพ้กีฬาประเภทอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย เห็นได้จากเรตติ้งการถ่ายทอดสดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยที่สูงลิ่ว รวมไปถึงยอดผู้ติดตามในสื่อโซเชียลมีเดียของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผลมาจากผลงานอันยอดเยี่ยมของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่สามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในการแข่งขันระดับนานาชาติ

กระแสความนิยมของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อวงการวอลเลย์บอลไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อวงการกีฬาไทยโดยรวมอีกด้วย เพราะช่วยในการกระตุ้นให้คนไทยหันมาสนใจกีฬามากขึ้น รวมไปถึงช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย

น้องหยก ดาวรุ่งนักตบลูกยางสาว U21

พาไปรู้จักหนึ่งในเยาวชนดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ตั้งความฝันไปให้ถึงดวงจันทร์ และวินัย อย่าง “หยก” อชิรญาภรณ์ กำใจบุญ นักตบลูกยางสาววัย 19 ปี เจ้าของส่วนสูง 180 เซนติเมตร ผลผลิตจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ปัจจุบันสังกัดสโมสรวอลเลย์บอลสุพรีม ทิพย ชลบุรี-อี.เทค ซึ่งเป็นทีมวอลเลย์บอลหญิงชั้นนำของไทย โดยหยกได้โชว์ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นตั้งแต่ยังเด็ก จนถูกเรียกติดทีมเยาวชนและทีม U21 ของทีมชาติไทย

เส้นทางสู่การเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล

การเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล เริ่มขึ้นเมื่อตอนเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยเริ่มใช้เวลาเล่นวอลเลย์บอลมาเรื่อยๆ ด้วยความสนุกและความชอบส่วนตัว บวกกับอยากให้ตนเองมีสุขภาพที่ดี จึงเริ่มที่อยากจะเป็นเข้าสู่อาชีพนักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิง

ความอยากเป็นนักกีฬามืออาชีพ ทำให้ต้องฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ จนเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพจริงจังในช่วงที่เรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีครอบครัวโดยเฉพาะคุณพ่อ ที่เป็นทั้งโค้ชและคนคอยไปรับไปส่งตลอดเวลาที่มีการฝึกซ้อม

ช่วงเวลาที่ยากลําบาก
ในการเป็นนักกีฬา

ทุกช่วงเวลาถือว่ามีความท้าทายอยู่ตลอดเวลา เพราะว่า การย้ายไปอยู่โรงเรียนประจำ เพราะทำให้ต้องเก็บตัวฝึกซ้อมเป็นระยะเวลานานๆ สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปหมด ทั้งเพื่อนร่วมทีม โค้ชผู้ฝึกสอน โดยเฉพาะต้องห่างจากครอบครัว ในช่วงนั้นต้องตัดขาดจากโลกโซเชี่ยล โดยมีกฎห้ามเล่นโทรศัพท์ ต้องมีวินัย และต้องดูแลตัวเองมากขึ้นในขณะที่ไม่มีพ่อแม่มาคอยดูแลเหมือนเดิม สิ่งเหล่านี้ทำให้ได้เรียนรู้และปรับตัว ซึ่งน้องหยกบอกว่า

“มันเลยเป็นเรื่องที่ยาก
แต่ตอนนี้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้แล้ว”

เส้นทางเดิน
กว่าจะมาเป็นนักกีฬาทีมชาติ

การเป็นนักกีฬาทีมชาตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เราต้องมีความต่อเนื่องในเรื่องระเบียบ วินัย ไม่ใช่แค่ออกกำลังกายวันละครั้ง แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง หากหยุดซ้อมเพียงวันเดียวก็อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพได้ การเป็นนักกีฬาทีมชาติต้องรักษาระเบียบวินัยทั้งในการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารซึ่งต้องทำให้สอดคล้องกัน

ประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่เคยเกือบเสียโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตนั้นคือ “ปกติหนูไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ว่าตอนนั้นเรียนจบ ม.ปลาย ก็เลยถือโอกาสนั้นไปฉลองกับเพื่อนนิดหน่อย แต่ว่าวันรุ่งขึ้นมีซ้อม วันนั้นดื่มหนักพอสมควร ทำให้นอนดึกไปด้วย เมื่อมาซ้อมมันก็เลยส่งผลต่อสติอะไรพวกเนี่ยค่ะ”

“สติคือสิ่งสำคัญมากในกีฬาวอลเลย์บอล จะแพ้หรือชนะตัดสินในแค่เสี้ยววินาที การเป็นนักกีฬาที่ซ้อมดีแต่ไม่มีสติ จะส่งผลให้การตัดสินใจช้ากว่าคู่แข่ง อาจจะโดนลงโทษด้วยความพ่ายแพ้ซึ่งส่งผลเสียต่อทีมทันที โชคดีที่วันนั้นยังเป็นแค่วันที่ซ้อม แต่มันกลับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ คือถ้าวันนั้นมีคนแบบหยกอีกสักคน หรือ 2 คนมันคือครึ่งของทีม ทีมคงไม่พัฒนา และคงยากที่จะแข่งกับคู่ต่อสู้ที่เก่งและมีวินัยมากกว่าเรา”

นำความผิดพลาด บทเรียนชีวิตกลับมามุ่งมั่น มีวินัย และแรงพลักดันที่จะพัฒนาตัวเอง โดยหยกได้โชว์ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น จนถูกเรียกติดทีมเยาวชนและทีม U21 ของทีมชาติไทย

ช่วงเวลาความกดดัน

ช่วงคัดเลือกเยาวชนทีมชาติ เป็นช่วงที่กดดันมากที่สุด ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ติดทีมชาติทั้งสามรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนมีแต่คนเก่ง ที่มีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ น้องหยกต้องยกระดับตัวเองให้มากกว่าคนอื่นๆ จะติดกับดักความสำเร็จที่ผ่านมาไม่ได้

การคัดเลือกนักกีฬาเพื่อติดทีมชาติ ไม่ใช่เคยติดทีมชาติแล้วจะติดตลอดไป แต่ต้องผ่านการคัดเลือกใหม่ทุกครั้ง เพราะการคัดเลือกทีมชาติจะต้องคัดสรรคนที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น ความกดดันมันถาโถมเข้ามาทุกครั้งที่ต้องเอาชนะตัวเองและหลายคนที่พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เราต้องไม่หยุดอยู่กับที่วันหนึ่งอาจจะโดนแซงได้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่กดดันที่สุด น้องหยกมีคำที่ช่วยกระตุ้นตัวเองอยู่ตลอดดั่งคำคลาสสิคที่ว่า

การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว
แต่การรักษาแชมป์มันยากยิ่งกว่า

ช่วงเวลาความสุข :))

แม้จะมีช่วงกดดัน แต่ก็ยังมีช่วงของเวลาความสุขอยู่บ้าง มันปนกันระหว่างสุขกับทุกข์ โดยเฉพาะช่วงที่ประสบความสําเร็จ ชนะการแข่งขัน ก็จะมีความสุข หรือว่าแมตช์ที่ไม่ชนะแต่รู้สึกว่าภูมิใจกับรูปแบบการเล่นของตนเองหรือผลงานที่ออกมา นอกจากนี้การได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกมีความสุขที่สุดแล้ว

ไอดอลในดวงใจ

มีไอดอลอย่าง “พี่เพียว” อัจฉราพร คงยศ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนและรุ่นพี่ทีมชาติไทย เนื่องจากมีความคล้ายกัน ทั้งส่วนสูงและตำแหน่งการเล่นที่เหมือนกัน และการได้โอกาสไปฝึกซ้อมด้วยกันทำให้ พี่เพียว เป็นทั้งแรงบันดาลใจในด้านทักษะการเล่นที่เก่งและระเบียบวินัย รวมทั้งการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับรุ่นน้อง ทำให้หยกรู้สึกชื่นชอบและอยากเป็นแบบพี่เพียว

ส่งต่อแรงบันดาลใจถึงน้องๆ ที่อยากเป็นนักวอลเลย์บอล

สิ่งแรกเลยหากเดินทางมาสายนี้ ก็คือ “อย่าท้อ” โดยเฉพาะการไม่ประสบความสำเร็จสักที ตัวอย่างของหยกที่กว่าจะซ้อมแล้วติดทีมชาติไทย ก็ใช้เวลาร่วมกว่า 10 ปี แล้วปีนี้ (2566) เข้าปีที่ 11 แล้วยังต้องฝึกซ้อมและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ที่สำคัญคือ “อย่าท้อ ไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรสามารถการันตีได้ว่าเราจะติดทีมชาติในปีไหน หรือตอนไหน ถ้าโอกาสมันไม่เข้ามาหาเรา เราควรที่จะไปหาโอกาสด้วยตัวเอง นักกีฬาต้องขยันหาโอกาสและเตรียมตัวเองให้พร้อมที่สุด ต้องเตรียมพร้อมกับโอกาสที่จะเข้ามาตลอดเวลา ทั้งการกิน การนอน การพักผ่อน ความแข็งแรงของร่างกาย นักกีฬาอาชีพเขาซ้อมมาทั้งปีเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโอกาสมันจะมาตอนไหนเหมือนกัน พอมีโอกาสเข้ามามันก็ต้องรีบคว้า”

ข้อคิดที่ใช้นำทางชีวิตจากคุณพ่อ

“ให้ตั้งเป้าหมายไปที่พระจันทร์”
ถึงถูกคาดคั้น เราก็ยังอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว เปรียบเหมือนการตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ไว้ก่อนถึงจะไม่ประสบความสําเร็จ แต่อย่างน้อยก็ยังอยู่ในจุดที่ดีกว่า


ภาพประกอบเพิ่มเติม Achirayaphorn Kumjaiboon 

นักสื่อสารสุขภาวะดิจิทัล และ Data Journalism