“…ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครูให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกันแค่ให้แข่งกับตัวเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่าช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า ให้ครูจัดกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกันเพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี…”
สร้างการเปลี่ยนแปลงที่โรงเรียนจากพฤติกรรมเสี่ยงเปลี่ยนเป็นพฤติกรรมสุขทั้งครูและเด็กที่โรงเรียนคำพ่อสอน
โครงการ โรงเรียนคำพ่อสอน เกิดขึ้นในปี๒๕๕๙ จนถึงปัจจุบันด้วยการน้อมนำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการศึกษา (ดังอัญเชิญมานี้) ลงสู่ภาคปฏิบัติในโรงเรียนที่มีเป้าหมายเดียวกันคือให้นักเรียนเป็นคนดี มีศีลธรรม พึ่งตนได้ ปลอดอบายมุข
เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดีผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่าโครงการโรงเรียนคำพ่อสอน ที่กำลังขับเคลื่อนร่วมกับเครือข่ายโรงเรียนนั้น ถือว่าเป็นนวัตกรรมการศึกษา ที่เกิดจากการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาออกแบบการเรียนรู้สู่ภาคปฏิบัติ ที่มีกิจกรรมสอดคล้องกับวิถีโรงเรียน สามารถป้องกันแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงเช่นการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติดของเยาวชน ลดความก้าวร้าวรุนแรง ทั้งได้เชื่อมสัมพันธ์ของครูกับผู้ปกครองโดยมีความรัก ความเข้าใจ ความสามัคคีเป็นจุดเริ่มต้น หากหน่วยงานการศึกษาขับเคลื่อนอย่างจริงจังเชื่อมั่นว่าปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆของเยาวชน เช่นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ยาเสพติด ความรุนแรงจะลดลง และเนื่องในคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่๕ ธันวาคม นี้ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) และเครือข่ายโรงเรียนคำพ่อสอน ขอน้อมถวายผลผลิตที่เกิดจากคำสอนของพระองค์ท่านเป็นพระราชสักการะและ “เราจะร่วมสร้างเยาวชนคนดีให้กับประเทศไทยด้วยคำพ่อสอนไปด้วยกัน”
นางสาวนิลสุดานิลสุวรรณผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองโพธิ์มิตรภาพที่๑๒๙สพป.ชุมพรเขต๒ เป็นโรงเรียนคำพ่อสอน ต้นแบบรุ่น๒ ในปีการศึกษา๒๕๖๔ กล่าวว่าที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนคำพ่อสอน เพราะรัก เคารพ ศรัทธา เทิดทูนพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และอยากแก้ปัญหาที่โรงเรียน คือนักเรียนมีความก้าวร้าวรุนแรง ต่อต้านครูไม่รักโรงเรียนทำลายข้าวของ แต่เมื่อเข้าร่วมโครงการและใช้แนวทางของโรงเรียนคำพ่อสอนที่เริ่มต้น “..ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู..” ตามคำสอนของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ ด้วยการปฏิบัติในกิจกรรมแรกคือเปิดเทอมสร้างสุข “ให้ความรักก่อนให้ความรู้” โดยครูเริ่มต้นด้วยการเปิดใจบอกความตั้งใจดีต่อนักเรียนและหากเคยทำอะไรผิดไปกับนักเรียนครูขอโทษ และสัญญาว่าจะเป็นครูที่ดีของนักเรียน พร้อมทั้งผูกข้อมือรับขวัญและกอดนักเรียน ซึ่งกิจกรรมนี้สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อนักเรียนและคุณครูอย่างมาก ความก้าวร้าวรุนแรงหายไปกลายเป็นความมีน้ำใจมาช่วยเหลือครูด้วยความเต็มใจไม่หวังผลตอบแทน รับฟังในสิ่งที่ครูสอน และครูกับนักเรียนในปัจจุบัน มีท่าทีเหมือนญาติพี่น้องกัน
นายศักดิ์ดาศรีมานนท์ครูกลุ่มสาระภาษาไทยโรงเรียนบ้านบางน้ำจืดสพป.สมุทรสาคร ครูแกนนำโรงเรียนคำพ่อสอน ต้นแบบรุ่น๒ กล่าวว่าตอนแรกคิดว่าโครงการโรงเรียนคำพ่อสอน คงเป็นเรื่องยาก แต่ก็อยากสานต่อคำสอนของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ ให้ลงถึงตัวนักเรียน แต่พอได้ลงมือทำแล้วพบว่าทำง่ายมาก สนุก และรู้สึกว่าได้ทำความดีในทุกๆวัน ครูศักดิ์ดากล่าวต่อไปว่าที่โรงเรียนบ้านบางน้ำจืดนั้น เป็นโรงเรียนขยายโอกาสมีนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล ถังมัธยมศึกษาปีที่๓ พ่อแม่ทำงานรับจ้างในโรงงานไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก เด็กไม่รู้จะไปไหน แต่เมื่อตนเองพาเด็กๆทำกิจกรรมตามแนวทางโรงเรียนคำพ่อสอนเช่นพาเด็กทำลูกอมสื่อรักเพื่อให้เลิกบุหรี่ปลูกผัก กิจกรรมอะไรซ่อนอยู่ในขวด พี่สอนน้อง และให้เวลากับเด็กๆในตอนเย็นหลังเลิกเรียน ไม่ใช้ความรุนแรงกับเด็ก ทำให้เด็กๆมีความสุขและน่ารักขึ้น ทั้งยังลดช่องว่างระหว่างผู้ปกครองกับครูด้วย โดยผู้ปกครองให้ความร่วมมือกับโรงเรียนเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เช่นผู้ปกครองร่วมงดเหล้าเข้าพรรษา และงดได้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีความตั้งใจจะงดต่อหลังจากออกพรรษา จากจดหมายสื่อรักของลูกที่โรงเรียนพาทำทั้งโรงเรียน