แนวทางจัดงานศพแบบเรียบง่ายและค่านิยมในสังคมอนาคต

แนวทางจัดงานศพแบบเรียบง่ายและค่านิยมในสังคมอนาคต

ศุภกิตติ์ คุณา
31 พฤษภาคม 2568

เรื่องโดย ศุภกิตติ์ คุณา
SDN THAILAND

งานศพในสังคมไทยถือเป็นพิธีกรรมสำคัญที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างผู้ยังมีชีวิตอยู่กับผู้ล่วงลับ ทั้งยังเป็นพื้นที่แห่งการรวมญาติ มิตรสหาย และชุมชน เพื่อร่วมกันไว้อาลัยและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้วายชนม์ นอกจากนี้ งานศพยังเป็นเวทีที่แสดงถึงสถานภาพทางสังคมของทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะในมิติของเครือข่ายทางสังคม และเป็นโอกาสสำคัญที่สมาชิกในชุมชนจะได้พบปะและสร้างปฏิสัมพันธ์กันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันปัญหาค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งความคาดหวังทางสังคม การแข่งขันกันในเรื่องความใหญ่โตของงาน และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในชุมชนเมืองและชนบท ส่งผลให้หลายครอบครัวประสบกับภาระทางการเงินอย่างหนัก โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทั้งค่าโลงศพ ค่าพิธีกรรม ค่าอาหารเลี้ยงแขก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อันอาจกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่เบื้องหลังได้

งานศพในสังคมไทย เป็นพิธีกรรมสำคัญที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนาและความสัมพันธ์ของคนในชุมชน งานศพไม่เพียงแต่เป็นโอกาสให้ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงได้รวมตัวกันไว้อาลัยและทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่แสดงออกถึงความเอื้ออาทรและความสามัคคีของชุมชนอีกด้วยโดยเฉพาะสังคมในภาคอีสานและภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือตามที่เคยมีข่าวสารประเด็นค่าใช้จ่ายในงานศพ ซึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติที่ซับซ้อนและเน้นการจัดงานใหญ่ ขณะที่ภาคกลางอาจมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับความต้องการและฐานะของเจ้าภาพแต่ละราย

สถานการณ์ค่าใช้จ่ายงานศพในปัจจุบัน

เมื่อพิจารณาข้อมูลค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยและรายละเอียดย่อยของแต่ละภูมิภาค จะพบว่าภาคอีสานมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหนึ่งงานศพอยู่ที่ประมาณ 50,000–300,000 บาท หรืออาจสูงกว่านั้น หากมีการจัดงานหลายวันหรือมีการว่าจ้างวงปี่พาทย์มาบรรเลงดนตรีเต็มรูปแบบ หรือทางภาคเหนือ ก็จะมีการแห่พื้นเมือง กับการแห่ประยุกต์ที่ใช้เครื่องดนตรีสากลเข้ามาร่วม หรือทางภาคอีสานก็มักจะมีวงดนตรีมาเล่นในงาน ตัวอย่างค่าใช้จ่ายในบางจังหวัด เช่น มหาสารคาม ขอนแก่น และอุบลราชธานี เฉลี่ยการจ้างวงดนตรีที่ 30,000 บาท ขึ้นไป ซึ่งสูงเมื่อเทียบกับรายได้ครัวเรือนในพื้นที่ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายหลัก ประกอบด้วย ค่าอาหารเลี้ยงแขก บางงานจัดเลี้ยงวันละ 3 มื้อ มื้อละหลักหมื่นบาท ค่าโลงศพ ค่าพิธีกรรม ค่าดอกไม้ ค่าเครื่องเสียง และค่าเช่าศาลาวัด ค่าเช่าโรงเย็น ตัวอย่างกรณีศึกษาจริง เช่น ค่าใช้จ่ายการจัดงานศพ 5 วัน 4 คืน รวมกว่า 311,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าอาหารเลี้ยงแขกและค่าซองพระ

สำหรับในภาคเหนือนั้น ผู้เขียนเองได้พื้นที่สำรวจค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ พบว่ามีค่าเฉลี่ยใกล้เคียงกับภาคอีสาน โดยมีแนวโน้มค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามความซับซ้อนของพิธีกรรมและจำนวนวันจัดงาน การจัดงานศพทั้งสองภาคมีความคล้ายคลึงกัน คือ ส่วนใหญ่จะตั้งบำเพ็ญกุศลศพไว้ที่บ้าน ซึ่งหมดไปกับค่าใช้จ่ายในการจัดเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน บางที่ก็เล่ากันว่า จัดงานเหมือนเลี้ยงทั้งหมู่บ้าน

ปัจจุบันเริ่มมีอาชีพที่มีการรับจัดงานศพ (ออแกไนซ์) ทั้งในภาคเหนือและภาคอีสาน มีการนำเสนอแพ็คเกจสิ่งของเครื่องใช้ประกอบพิธีกรรม 3 แบบ ได้แก่ ชุดใหญ่ (ประมาณเฉลี่ย 20,000 บาท) ชุดกลาง (ประมาณเฉลี่ย 7,000 บาท) และชุดเล็ก (ประมาณเฉลี่ย 3,000–4,000 บาท) ซึ่งรวมถึงโลงศพ ปราสาทศพ ดอกไม้ ของชำร่วย พลุ และรถขนศพ หรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หากมีการเพิ่มที่นอกเหนือจากรายละเอียดข้อเสนอ หรือมีการจัดงานหลายวัน รวมถึงการตกแต่งดอกไม้อย่างหรูหรา

ในส่วนของภาคกลาง ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย อาจต่ำกว่าภาคอีสานและภาคเหนือ เนื่องจากส่วนใหญ่หลายครอบครัวเลือกจัดงานที่วัดใกล้บ้าน ซึ่งมีการลดค่าใช้จ่ายด้านสถานที่และอาหารเลี้ยงแขก และเงื่อนไขของสถานที่ ตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายรวมขั้นต่ำประมาณ 20,000 บาท ประกอบด้วย ค่าโลงศพ ค่าเช่าโลงเย็นและการตกแต่ง ค่าเช่าศาลาวัด ค่าอาหารเลี้ยงแขก ค่าของชำร่วย ค่าเผาศพ และค่าลอยอังคาร ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้นหากเลือกจัดงานที่วัดใหญ่ในเมืองหรือมีการจัดเลี้ยงแขกจำนวนมาก ซึ่งผู้เขียนเองก็มีโอกาสไปร่วมงานศพผู้รู้จักทั้งภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลาง เคยตั้งข้อสังเกตทุกภาคไว้คล้ายกันว่า การจัดงานในวัดนั้นมีค่าใช้จ่ายน้อย และเรียบง่าย โดยเฉพาะในภาคกลาง ที่ส่วนใหญ่จัดงานที่วัด ซึ่งวัดเองก็มีการคิดคำนวณค่าใช้จ่ายไว้อยู่แล้ว โดยส่วนมากเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องไปซื้อหรือเช่า วัดมีบริการให้ยืม รวมถึงข้อกำหนดหลายๆอย่าง ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจากการจัดงานในวัดก็จะลดลง ตัวอย่าง ในวัดมีข้อกำหนดห้ามมีการจัดเลี้ยงซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหลักๆ และมีข้อบังคับการเปิด-ปิด ตามเวลา ลดปัญหาอบายมุขต่างๆ ได้ ซึ่งเป็นข้อสังเกตและข้อคิดเห็นโดยภาพรวมของผู้เขียนเท่านั้น

นอกจากในพิธีกรรมงานศพแล้ว หลังพิธีกรรมจากการตั้งบำเพ็ญกุศลศพตลอดจนทำการฌาปนกิจแล้ว ก็ยังมีค่าใช้จ่ายในการจัดการเรื่องการเก็บอัฐิ ลอยอังคาร หรือมีการทำโกศเก็บกระดูก ซึ่งเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ยกเว้นจะเป็นการบริจาคร่างกายให้กับคณะแพทยศาสตร์หลังจากเสร็จสิ้นพิธีกรรมตามศาสนา

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในงานศพสูงขึ้น ได้แก่ จำนวนวันจัดงาน ซึ่งการบำเพ็ญกุศลหลายวันทำให้เกิดค่าใช้จ่ายด้านอาหารเลี้ยงแขกและค่าพิธีกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขนาดของการจัดงานและจำนวนแขกที่มาร่วม ก็มีส่วนสำคัญ ยิ่งมีแขกมาก ค่าอาหารและของชำร่วย ก็ยิ่งสูงตามไปด้วย นอกจากนี้ความหรูหราและความประณีตของพิธีกรรม เช่น การเลือกโลงศพไม้สักทองหรูหรา การตกแต่งดอกไม้ การจ้างวงดนตรีหรือมหรสพพื้นบ้าน รวมถึงการจ้างร้านจัดงานศพแบบครบวงจร ซึ่งรวมทั้งโลงศพ ปราสาทศพ ดอกไม้ ของชำร่วย พลุ รถขนศพ และบริการอื่น ๆ ล้วนมีผลต่อค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น

นอกจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและรูปแบบการจัดงานแล้ว ความเชื่อและธรรมเนียมปฏิบัติในชุมชน เช่น การเลี้ยงแขกหลายมื้อในภาคอีสานหรือการจัดงานใหญ่เพื่อแสดงฐานะทางสังคม ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจากชุมชนใกล้ชิดไปสู่สังคมเมือง ที่มีการรับจ้างจัดงานศพและบริการต่าง ๆ มากขึ้น

แนวทางการจัดงานศพแบบเรียบง่าย

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีการประกาศและบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมโรคระบาด ในช่วงดังกล่าวผู้เขียนเองได้มีการเก็บข้อมูลของการจัดการงานศพที่ไม่ใช่จากการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 พบว่ามีการจัดงานแบบรัดกุมและเรียบง่าย จำกัดคน และมีการตรวจ ATK ตามมาตรการผ่อนปรนในช่วงนั้นๆ พบว่าค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพแบบฟุ่มเฟือยลดลง มีเพียงแก่นแท้ของพิธีกรรมงานศพเป็นหลัก มีการจัดงาน 1-2 คืน และแจกจ่ายอาหารในรูปแบบอาหารกล่องหรือเป็นบรรจุภัณฑ์นำกลับบ้านได้ และในช่วงดังกล่าวยังเป็นช่วงห้ามรวมตัวกันและห้ามตั้งวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้การจัดการงานศพในช่วงนั้นเป็นการจัดงานศพอีกแนวทางเลือก ที่ปัจจุบันมีแนวทางที่หลากหลายมากขึ้น และช่วยให้การจัดงานศพเป็นไปอย่างเรียบง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย

โดยแนวทางหนึ่งตามประเพณีของศาสนาพุทธ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นคือ การลดจำนวนวันในการบำเพ็ญกุศล สวดอภิธรรม เหลือเพียง 1–2 คืน แทนที่จะจัดงานต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านอาหารเลี้ยงแขกและค่าพิธีกรรมแล้ว ยังช่วยให้เจ้าภาพมีเวลาสำหรับการเตรียมตัวและจัดการงานได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น รวมถึงการใช้โลงศพและของตกแต่งแบบเรียบง่าย ก็เป็นอีกแนวทางที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างเห็นผล โดยไม่จำเป็นต้องเลือกโลงศพหรูหราหรือของตกแต่งราคาแพง การเน้นความเรียบง่ายและความหมายที่แท้จริงของการไว้อาลัยจะช่วยให้งานศพมีความสงบและสมถะ แต่ยังคงความเคารพต่อผู้ล่วงลับอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้การจัดอาหารว่างและเครื่องดื่มแบบพอประมาณก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก โดยเน้นการบริการแบบพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานได้รับความสะดวกสบายอย่างเหมาะสม

การเลือกสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพเป็นวัด หรือสถานที่จัดงานที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ ก็เป็นทางเลือกที่เจ้าภาพควรพิจารณา เนื่องจากค่าเช่าศาลาวัดบางแห่งมีราคาแตกต่างกันอย่างมาก การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมกับกำลังทรัพย์จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายโดยรวมลงได้อย่างมาก

บทสรุปของแนวทางในการจัดงานศพแบบเรียบง่ายนั้น มีหลายวิธี ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายและภาระของเจ้าภาพ โดยแต่ละวิธีมีรายละเอียดและข้อดีแตกต่างกัน

  • การเลือกจัดงานบำเพ็ญกุศลศพที่วัด มีข้อดีคือประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากการจัดงานศพที่วัด ซึ่งเป็นการจัดการตั้งแต่ต้นจนจบ ตลอดจนเก็บอัฐิ และในวัดหลายวัด มีความพร้อมทั้งศาลาตั้งศพ เครื่องปรับอากาศ โต๊ะ เก้าอี้ หรือศาลาแบบธรรมดาให้เลือก จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของสถานที่ ค่าอาหารว่าง และค่าอาหารเลี้ยงแขก โดยบางวัดมีบริการอาหารว่างและอาหารหลักให้เลือกตามความต้องการของเจ้าภาพ ซึ่งมีความเรียบง่าย และในวัดเองก็มีข้อจำกัดในเรื่องของอบายมุขต่างๆ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายค่าเหล้า อีกทั้งวัดหลายแห่ง มีระบบจัดงานศพครบวงจร ตั้งแต่โลงศพ ดอกไม้ อาหารว่าง ไปจนถึงค่าพิธีกรรมและค่าใช้จ่ายในการสวดของพระ ซึ่งเจ้าภาพสามารถเลือกใช้บริการของวัดได้ครบถ้วน และวัดบางแห่งมีแพ็คเกจจัดงานศพหลายคืนให้เลือกตามงบประมาณ และในวัดเองยังมีบรรยากาศเหมาะสม การจัดงานศพที่วัดช่วยให้พิธีกรรมเป็นไปอย่างเรียบง่าย สงบ และเหมาะสมกับบรรยากาศการไว้อาลัย
  • การเลือกแพคเกจจัดงานศพจากออแกไนซ์ ข้อดีคือมีครบวงจรและสะดวกสบาย บริษัทรับจัดงานศพหรือออแกไนซ์งานศพหลายแห่งมีแพ็คเกจจัดงานศพแบบครบวงจร ตั้งแต่โลงศพ บริการรถรับส่งศพ ดอกไม้ประดับหน้าศพ ดอกไม้ถวายพระ ธูปเทียน อุปกรณ์เชิญวิญญาณ ไปจนถึงของชำร่วย ซึ่งเจ้าภาพสามารถเลือกแพ็คเกจที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการได้ โดยสามารถเลือกรูปแบบการจัดการ ซึ่งค่าใช้จ่ายก็คิดตามแพ็คเกจการจัดงานศพ ตั้งแต่แบบเรียบง่ายจนถึงแบบใหญ่โต โดยมีค่าใช้จ่ายแบบเริ่มต้นประมาณ 13,000–20,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทโลงศพและบริการที่เลือก การใช้บริการออแกไนซ์ ช่วยให้เจ้าภาพลดความยุ่งยาก ไม่ต้องกังวลกับการจัดการรายละเอียดต่าง ๆ ของงานศพ มีทีมงานมืออาชีพจะดูแลตั้งแต่ต้นจนจบพิธีการ แต่การเลือกใช้ออแกไนซ์ ควรเลือกจากบริษัทหรือทีมที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

นอกจากนี้ผู้เขียนเองยังพบการรับจ้างจัดงานศพผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง Fastwork มีบริการรับจัดงานศพ รับจัดงานฌาปนกิจ รับจัดงานกงเต็ก ครบวงจร โดยเจ้าภาพสามารถเลือกฟรีแลนซ์ที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้ง่าย โดยผู้รับจ้างสามารถทราบถึงขั้นตอนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ คล้ายกับการเลือกจ้างการจัดการจากออแกไนซ์รับจัดงานศพ ซึ่งการจ้างผ่านแพลตฟอร์มกลางออนไลน์มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน

งานศพปลอดเหล้า ลดค่าใช้จ่ายจริงหรือไม่

แนวคิดการจัด “งานศพปลอดเหล้า” เป็นแนวทางที่หลายพื้นที่เริ่มกำลังให้ความสำคัญมากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดปัญหาที่เกิดจากการดื่มสุราในงานศพ เช่น การทะเลาะวิวาท การสร้างความเดือดร้อนให้แก่เจ้าภาพและผู้ร่วมงาน รวมถึงการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การจัดงานศพปลอดเหล้า ยังช่วยให้บรรยากาศการไว้อาลัย ในงานศพเป็นไปอย่างสงบและเรียบร้อย สอดคล้องกับความหมายที่แท้จริงของงานศพ อันเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่ญาติมิตรจะได้แสดงความอาลัยและรำลึกถึงคุณงามความดีของผู้ล่วงลับ

ข้อมูลจาก สกว. การวิจัยท้องถิ่นประเด็นเรื่องการจัดการหนี้สิน โดยนายชาญ อุทธิยะ กล่าวถึงประเด็นเรื่องหนี้สิน และการนำเครื่องมือวิจัยมาใช้ คือ เรื่องของบัญชีครัวเรือน ที่ต้องจดบันทึกทุกอย่างที่จ่ายออกไป จากข้อมูลของเครื่องมือพบว่า หนึ่งในเงื่อนไขของการก่อเกิดหนี้สิน คือ สินค้าที่ไม่มีความจำเป็น หรือสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เหล้า เบียร์ และบุหรี่ โดยมีข้อมูลวิจัยไปจัดทำแก้ไขจัดระเบียบสังคม ด้วยการงดเหล้าในงานศพ ที่หมู่บ้านดง ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง เริ่มดำเนินการครั้งแรกในจังหวัดลำปาง ในปี พ.ศ. 2551

สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เป็นองค์กรที่ร่วมขับเคลื่อนกระบวนการสำคัญที่ทำให้โครงการงานศพปลอดเหล้าประสบความสำเร็จในหลายชุมชน โดยมีการทำข้อตกลงร่วมกันของคนในชุมชน รวมถึงการร่างเป็นพันธะสัญญาในการไม่ดื่มสุราและไม่เล่นการพนันในงานศพ โดยได้รับความร่วมมือจากแกนนำชุมชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มชมรมคนหัวใจเพชร ชมรมผู้สูงอายุ และร้านค้าในท้องถิ่น ซึ่งช่วยให้เจ้าภาพลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสุราได้ไม่น้อยกว่า 15,000 บาทต่องาน

การจัดงานศพปลอดเหล้า ไม่ได้ระบุว่าจะต้องจัดสถานที่ใด สามารถนำแนวคิดนี้ไปจัดการในงานศพได้ทุกสถานที่ ทุกศาสนา ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการจัดงานศพปลอดเหล้า นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของเจ้าภาพแล้ว ยังทำให้งานศพเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายหรือก่อกวนจากผู้ที่ดื่มสุรา รวมถึงเป็นการให้เกียรติผู้เสียชีวิตและครอบครัว โดยเฉพาะชุมชนชนบทที่จัดงานศพไว้ที่บ้าน อย่างในภาคเหนือและภาคอีสานที่มักมีเรื่องค่าใช้จ่ายเหล่านี้เข้ามาเป็นปัจจัยค่าใช้จ่ายและควบคุมยาก

งานศพปลอดเหล้า มีเหตุผลสำคัญหลายประการ ซึ่งการงานศพถือเป็นงานประเพณีที่แสดงความโศกเศร้ากับครอบครัวผู้สูญเสียและแสดงออกต่อผู้วายชนม์ตามศาสนา จึงไม่เหมาะสมที่จะนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอบายมุข เข้ามาในการจัดงาน

นอกจากเหตุผลทางศาสนาแล้ว ยังมีประเด็นทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เมื่อมีคนในครอบครัวเสียชีวิต โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีรายได้น้อย ครอบครัวผู้เสียชีวิตมักจะเผชิญกับภาระทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว การจัดงานศพแบบปลอดเหล้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก โดยหลายงานพบว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายได้เกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งช่วยบรรเทาภาระของครอบครัวได้เป็นอย่างดี

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากคนที่เมาสุรา การมีเหล้าในงานศพอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น การทะเลาะวิวาท การขับขี่ในสภาพมึนเมา หรือพฤติกรรมไม่เหมาะสมอื่นๆ ที่อาจทำให้งานศพที่ควรจะเป็นงานที่สงบเศร้าโศกกลับกลายเป็นที่มาของปัญหาแทน

กรณีศึกษางานศพจากเจ้าภาพ จ.ศรีสะเกษ

จากกรณีศึกษาประเด็นการเลี้ยงเหล้าในงานศพ ที่ผ่านมาได้กลายเป็นประเด็นสำคัญทางสื่อต่าง ๆ ทั้งในแง่ของภาระทางการเงิน รวมถึงผลกระทบจากปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดหนี้สินตามมา

กรณีศึกษาที่เปิดเผยได้ จากคุณยงยุทธ ยอดจารย์ ซึ่งเป็นบุตรชาย และเจ้าภาพได้ให้ข้อมูลจากการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพไม่เลี้ยงเหล้าในงานของคุณพ่อนิวัฒน์ ยอดจารย์ ที่จังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้ข้อมูลการจัดงานศพในท้องถิ่นภาคอีสาน เมื่อครอบครัวเป็นเจ้าภาพ ได้ตัดสินใจจัดงานศพที่บ้านโดยไม่เลี้ยงเหล้า ซึ่งเป็นครั้งแรกในชุมชนแห่งนี้ การตัดสินใจของเจ้าภาพนั้นเกิดจากการศึกษาข้อดีข้อเสียอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะประเด็นค่าใช้จ่ายที่เป็นภาระหลักของครอบครัว ปัจจัยที่ทำให้เจ้าภาพนั้นจะจัดงานแบบไม่เลี้ยงเหล้านั้น นอกจากแนวคิดแล้ว ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่าง พบว่า การมีความตั้งใจที่แน่แน่วและสื่อสารกับสังคมอย่างชัดเจน ก็เป็นส่วนสำคัญช่วยให้เกิดความสำเร็จ

การจัดงานศพที่บ้านในภาคอีสาน มักมีค่าใช้จ่ายสูงมาก จากกรณีศึกษา คุณยงยุทธให้ขอมูลนี้พบว่า ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพระยะเวลา 4 วัน มีค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 200,000 บาท ซึ่งประกอบด้วยค่าใช้จ่ายหลัก คือ เงินทำบุญใส่ซองให้พระ ค่าผู้เชี่ยวชาญด้านพิธีกรรม และค่าอาหารเครื่องดื่ม ที่ต้องเลี้ยงดูแขกตลอดระยะเวลาการจัดงาน รวมถึง นอกจากภาระทางการเงินแล้ว การดื่มเหล้ายังก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม จากกรณีศึกษาพบว่าในคืนแรกมีคนเมาเหล้าเข้ามาร่วมงาน มีความขาดสติหรือแม้แต่พฤติกรรมสวดแข่งกับพระ ซึ่งทำลายบรรยากาศของงานที่ควรเป็นงานเศร้าโศกและความสงบ รวมถึงอาจทำให้แขกนอกพื้นที่ ที่ตั้งใจมาร่วมงานมองถึงความไม่เหมาะสม

การจัดงานงดเลี้ยงเหล้าในงานศพนั้น มีความท้าทายสูง ยิ่งแรงปะทะกับกลุ่มแรงงานในพื้นที่ ที่มักอ้างว่าเป็นผู้ที่ใช้แรงงานเข้ามาช่วยในเรื่องของการช่วยงานหนัก เช่น กางเต็นท์ เก็บกวาดพื้นที่ ขนโต๊ะ-เก้าอี้ ที่ผ่านมามักจะได้รับการเลี้ยงเหล้า-เบียร์ เป็นการตอบแทน นอกจากนี้เจ้าภาพต้องใจเข้มแข็ง เนื่องจากจะมีปัจจัยจากญาติพี่น้องหรือคนใกล้ชิดตีสนิท ชี้ทางในการจ่ายเงิน แต่สุดท้ายเงินนั้นที่จ่ายไปนั้น มาจากเงินของเจ้าภาพ ไม่ได้มาจากคนที่ชี้แนะ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายไม่พึงประสงค์ได้

แต่หากเจ้าภาพมีความชัดเจนไม่เลี้ยงเหล้า ผู้คนที่มาร่วมงานก็อาจจะเข้าใจได้ เรื่องของการสื่อสารที่ชัดเจนก็มีความสำคัญ เจ้าภาพได้ทำป้ายประกาศ งานศพไม่เลี้ยงเหล้า เพื่อเป็นเกียรติกับเจ้าภาพและผู้วายชนม์ ติดไว้หน้างานและภายในงาน การมีป้ายช่วยให้การรับรู้และเข้าใจได้งานขึ้น ผู้ที่มาร่วมงานก็เข้าใจและเป็นการให้เกียรติผู้วายชนม์และเจ้าภาพ แม้ว่าจะยากมากกับการที่เป็นเคสกรณีแรกของชุมชนในการจัดงานศพที่บ้านในภาคอีสานที่ไม่มีการเลี้ยงเหล้าจากเจ้าภาพ ก็มีการแอบซื้อมากันเองบ้าง แต่ก็ไม่มีการดื่มกินให้เห็นในหน้างาน

ค่าใช้จ่ายหลักจากการทำบัญชีรับจ่าย หมดไปกับเงินทำบุญใส่ซองร่วม 2 หมื่น และมีผู้เชี่ยวชาญที่ทำเกี่ยวความเชื่อประเพณีพิธีหรือมัคนายก หมอผี ผู้นำทางความเชื่อ และอื่น ๆ ที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางครั้งอาจจะนอกเหนือกระบวนการพิธีกรรม เช่น การเรียกร้องให้มีสิ่งนั่นสิ่งนี่ในงานที่ไม่ใช่แก่นแท้ ซึ่งต่างจากการจ้างออกแกไนซ์หรือการมีแพจเกจให้เลือกตามราคาที่ระบุไว้ชัดเจนและอีกปัจจัยคือ ค่าอาหาร ยังเป็นค่าใช้จ่ายที่ควบคุมยาก เพราะเจ้าภาพต้องเลี้ยงดูปูเสื่อแขกที่มาในงาน โดยเฉพาะการจัดงานที่บ้าน ก็จะมีพ่อบ้านแม่บ้านในชุมชนมากันแต่เช้ามืด ช่วยกันเตรียมข้าวอาหารเลี้ยงดูแขกที่มาร่วมงาน

ผลตอบรับการจัดงานแบบไม่เลี้ยงเหล้านั้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การวางแผนงบประมาณง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยรักษาบรรยากาศในงานให้เหมาะสมกับการไว้อาลัย แม้จะมีความท้าทายอย่างมาก แต่ยังคงมีความท้าทายใน ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าผู้เชี่ยวชาญด้านพิธีกรรมและค่าอาหารยังยากต่อการควบคุม นอกจากนี้ ในพื้นที่อื่นๆ อาจยังมีความต้านทานหรือความไม่เข้าใจจากบางกลุ่มคน การสร้างความเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

จากกรณีศึกษานี้ทางคุณยงยุทธ ยอดจารย์ ยังมองเห็นความสำคัญของการมีคู่มือในการจัดงานศพ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่สนใจมีแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนินการ การพัฒนาคู่มือดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น พร้อมทั้งการสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การพัฒนาทางเลือกอื่นๆ เช่น การใช้บริการแพ็กเกจที่มีราคาโปร่งใส และการรณรงค์สร้างความตระหนักในชุมชนโดยมีพระสงฆ์และผู้นำชุมชนร่วมสนับสนุน

การจัดงานศพแบบไม่เลี้ยงเหล้าในจังหวัดศรีสะเกษจากกรณีศึกษานี้ แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นไปได้ หากเจ้าภาพมีความตั้งใจแน่แน่ว มีการวางแผนที่ดีและมีเครื่องมือการสื่อสารที่ชัดเจน เช่น ป้ายการงดเลี้ยงเหล้าในงานศพ ไม่ใช่แค่การลดค่าใช้จ่ายแต่เป็นการสร้างนวัตกรรมสุขภาวะทางสังคม ที่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพและสังคมเชิงบวกในวงกว้าง โดยมีการสนับสนุนจากพระสงฆ์ร่วมด้วย เป็นแบบอย่างของการปรับเปลี่ยนวิถีประเพณีให้เข้ากับบริบทของสังคมสมัยใหม่ได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งพัฒนาคู่มือการปฏิบัติ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของสังคม ในการรับเอาแนวทางใหม่และพัฒนาให้เป็นแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ทางเจ้าภาพยังยินดีให้คำแนะนำ และเป็นกำลังใจให้สำหรับเจ้าภาพทุกท่าน สามารถติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/sdnthailand

ทิศทางการเปลี่ยนแปลงค่านิยมในงานศพ

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่านิยมในสังคม “ความตายจึงกลายเป็นธุรกิจ” เป็นการวิเคราะห์ถึงค่าใช้จ่ายที่ลูกหลานจะต้องเตรียมจัดหามาใช้ในพิธีกรรมบำเพ็ญกุศลศพได้แก่ โลงศพ สิ่งของประกอบพิธีกรรม อาหารและเครื่องดื่ม (การเกิดรายได้เริ่มตั้งแต่ร้านจำหน่ายโลงศพ ร้านสังฆภัณฑ์ ร้านชำในชุมชน ผู้เลี้ยงหมู และตลาดสด) รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้สิ่งของถวายพระสงฆ์ ถือเป็นหน้าที่ของลูกหลาน หรือญาติพี่น้องต้องพูดคุยกันว่า “จะตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ สถานที่ใด และบำเพ็ญกุศลศพกันกี่วัน” ยังถามลึกลงไปอีกว่า “คุณพ่อคุณแม่ทำประกันชีวิตไว้กี่กลุ่มหรือลูกหลานใครคนไหนได้ทำประกันชีวิตไว้ให้ท่านบ้างไหม”

ในอดีตงานศพเป็นกิจกรรมที่เน้นความร่วมมือของเครือญาติและชุมชน โดยอาศัยน้ำใจและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นหลัก งานศพจึงมีลักษณะเรียบง่ายและประหยัด แต่เมื่อสังคมไทยก้าวเข้าสู่ความเป็นเมืองมากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนเริ่มห่างเหินลง ทำให้รูปแบบการจัดงานศพเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีชีวิตที่เร่งรีบและเน้นความสะดวกสบาย ปัจจุบันการจัดงานศพมักถูกมองว่าเป็นโอกาสแสดงฐานะทางสังคมของเจ้าภาพและครอบครัว บางครอบครัวเลือกจัดงานใหญ่โตเพื่อการแสดงออกให้เทียบเท่าหรือเหนือกว่าผู้อื่น จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการบริโภคนิยมและอัตลักษณ์ส่วนตัว

กระแสบริโภคนิยมและทุนนิยมเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบและค่าใช้จ่ายของงานศพ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานศพเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้พิธีกรรมที่เคยเรียบง่ายกลายเป็นสินค้าที่สามารถซื้อขายและเลือกแพ็คเกจได้ตามความต้องการ แม้กระทั่งความเชื่อดั้งเดิมที่เน้นการทำบุญเพื่อผู้ล่วงลับก็ยังคงอยู่ แต่ถูกปรับให้เข้ากับความจำเป็นทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตสมัยใหม่

จากการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพิธีกรรมงานศพในชุมชนเมือง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ของพระมหาพฤหัสบ์ เรืองสมบัติ และธีระพงษ์ มีไธสง (2563) ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงค่านิยมในการจัดงานศพเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งความเชื่อเดิมที่ผสมผสานกับแนวคิดสมัยใหม่ ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น และการแข่งขันทางสังคม ส่วนการเมือง มีผู้นำทางศาสนาและบ้านเมืองได้ร่วมกันออกแบบการจัดงานศพโดยได้รับอิทธิพลจากส่วนกลาง ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่านิยมการจัดงานศพแบบเดิมที่ชุมชนต่างพึ่งพาอาศัยกันตามศักยภาพของเครือข่ายญาติพี่น้อง แต่ปัจจุบัน ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกได้เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พิธีการจัดงานศพเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ การที่ร้านรับจัดงานศพหรือวัดบางแห่งเสนอแพ็คเกจจัดงานแบบครบวงจรในราคาประหยัดก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเจ้าภาพ โดยเจ้าภาพสามารถเลือกบริการได้ตามความต้องการและกำลังทรัพย์ของตนเอง ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการเตรียมงานและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพในสังคมไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติที่ซับซ้อนและเน้นการจัดงานใหญ่ ขณะที่ภาคกลางอาจมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับความต้องการและฐานะของเจ้าภาพแต่ละราย ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ได้แก่ จำนวนวันจัดงาน ขนาดของงาน ความหรูหราของพิธีกรรม การจ้างร้านรับจัดงานศพแบบครบวงจร และความเชื่อหรือค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคม

อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวทางที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มคุณค่าให้กับงานศพได้อย่างแท้จริง อาทิ การจัดงานศพแบบเรียบง่าย ค่าใช้จ่ายน้อย ด้วยการลดจำนวนวันบำเพ็ญกุศลเหลือเพียง 1–2 คืน ใช้โลงศพและของตกแต่งแบบเรียบง่าย จัดอาหารว่างและเครื่องดื่มแบบพอประมาณ รวมถึงเลือกวัดหรือสถานที่จัดงานที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ นอกจากนี้ การจัดงานศพปลอดเหล้ายังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งเสริมบรรยากาศการไว้อาลัยที่เหมาะสม และได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายงดเหล้าและชุมชน

การที่ร้านรับจัดงานศพหรือวัดบางแห่งเสนอแพ็คเกจจัดงานแบบครบวงจรในราคาประหยัด ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเจ้าภาพที่ต้องการความสะดวกสบายและสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในด้านค่านิยมการจัดงานศพ สังคมไทยกำลังเปลี่ยนแปลงจากความเรียบง่ายและเน้นน้ำใจชุมชน สู่ความซับซ้อนและเน้นความสะดวกสบายภายใต้อิทธิพลของกระแสบริโภคนิยมและทุนนิยม แม้กระนั้น ยังมีกลุ่มคนที่พยายามรักษาความหมายดั้งเดิมของพิธีกรรมไว้ โดยปรับใช้แนวทางที่เรียบง่าย ประหยัด และเหมาะสมกับวิถีชีวิตสมัยใหม่

โดยรวมแล้ว การจัดงานศพควรเป็นพิธีกรรมที่สะท้อนถึงความเคารพและความอาลัยต่อผู้ล่วงลับอย่างแท้จริง โดยเน้นคุณค่าทางจิตใจมากกว่าความฟุ่มเฟือยหรือการแข่งขันทางสังคม หากทุกภาคส่วนในชุมชนร่วมมือกันและปรับเปลี่ยนค่านิยมให้เหมาะสมกับยุคสมัย งานศพก็จะกลายเป็นพิธีกรรมที่สมถะ มีคุณค่า และไม่สร้างภาระให้กับเจ้าภาพหรือครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างแท้จริง


ข้อมูลอ้างอิง

  • Easysunday.com. (2024, ธันวาคม 13). เปิดค่าใช้จ่ายงานศพคนไทย ควรมีเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ? https://easysunday.com/blog/funeral-expense
  • Fastwork. (ม.ป.ป.). บริการจัดงานศพ. สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน 2568 จาก https://fastwork.co/funeral-service
  • Funeral Plans. (2019, สิงหาคม 11). ค่าใช้จ่ายจัดงานศพ เจ้าภาพ สวดอภิธรรม. https://www.funeral-plans.online/funeral-expense
  • Thailand Inside News. (2025, เมษายน 28). โซเชียลฯ ถกเดือดปม “งานศพ” ค่าใช้จ่ายสูง “เครือข่ายงดเหล้า” แนะชุมชน. https://thailandinsidenew.com/2025/04/28/0877055444
  • พระพิพัฒน์พงษ์ ฐานวุฑฺโฒ. (2554). ประเพณีงานศพ: กระบวนการกลายเป็นสินค้าภายใต้ทุนนิยม. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. https://kb.psu.ac.th/psukb/bitstream/2016/11234/1/413603.pdf
  • พระปลัดธนา อคฺคธมฺโม (พิมพารัตน์). (ม.ป.ป.). รูปแบบการจัดพิธีศพตามมิติของผู้ที่เกี่ยวข้องภายในวัด อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี [รายงานการวิจัย]. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตโยนก. https://yri.mbu.ac.th/wp-content/uploads/2024/10/ฉสมบูรณ์-พระปลัด-ธนา-65.pdf
  • ปราณี วงษ์เทศ. (2534). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงความเชื่อและพิธีกรรมการจัดงานศพของชาวล้านนา. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 6(2), 492. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/download/243445/164856
  • ศุภกิตติ์ คุณา. (2568, พฤษภาคม 4). ค่าใช้จ่ายในงานศพ จากเรื่องคนตาย กลายเป็นเรื่องคนเป็น. สำนักข่าวออนไลน์ SDN Thailand. https://sdnthailand.com/sdnblog/36644
  • สุริยาหีบศพ. (ม.ป.ป.). สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อมีคนเสียชีวิต รวมค่าใช้จ่ายเท่าไหร่. https://suriya6.com/Blog/preparations-funeral
65 ครั้ง