ชุมชนคนสู้เหล้า..ครอบครัวเรา ไม่ดื่ม ไม่เมา ไม่เสี่ยง เลี่ยงโควิดได้

จากสถานการณ์การเกิดโรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า(โควิด-19) ทำให้หลายๆ คนเริ่มตระหนักถึงผลของการดื่มเหล้า การสูบบุหรี่กันมากขึ้น สำหรับคนที่เคยเป็นนักดื่มอยู่ไม่ติดบ้าน ชอบออกไปสังสรรค์นอกบ้านเป็นประจำก็เริ่มลดน้อยลงถึงบางคนตัดสินใจเลิกดื่มไปเลย

นายสวอง วังบอน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านเนินหอม  อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรกปี 2563 ทำให้ตนเองตัดสินใจที่จะเลิกเหล้าตลอดชีวิตได้ พอตัดสินใจเลิกเหล้าแล้วก็ทำได้จริงๆ มันดีจริงๆนะ ไม่เมาเราก็มีแรงทำงาน บ้านเราทำสวนเกษตรพอเหนื่อยก็พัก เราไม่ต้องออกจากบ้านเลยไม่กังวลเรื่องโรคระบาด ไม่ดื่มไม่เมา เรามีสติตลอด สุขภาพก็ดีมีภูมิต้านทาน ลดรายจ่ายมีเงินเหลือเก็บเห็นๆ มันจับต้องได้จริงๆ 

ในชุมชนของเราเขารณรงค์ชวนงดเหล้าเข้าพรรษาก็จะเข้าร่วมโครงการฯ มาทุกปี เป็นระยะเวลา 17 ปีแล้วแต่ไม่เลิกขาด เมื่อถึงช่วงเข้าพรรษาก็จะหยุดก่อนเข้าพรรษาล่วงหน้าและจนถึงออกพรรษา รวมระยะเวลางดเหล้าเข้าพรรษาทั้งหมดนาน 5 เดือนของในทุกปี เมื่อก่อนชอบดื่มมีเพื่อนเยอะเฮฮากันไป เดี๋ยวนี้พอเลิกเหล้าได้มันก็คิดได้ว่า หากดื่มไปแล้วก็เมา เมื่อเหล้าเข้าปากแล้วใจกล้า ใจถึง แม้โควิดมาก็ไม่กลัวเพราะว่าเมาแล้วก็ลืมตัวขาดสติ นั่งดื่มเหล้าหยิบแก้วผิด..แก้วใครบ้างก็ไม่รู้ กินกับแกล้มใช้ช้อนเดียวกัน นั่งใกล้ชิดติดกัน พอเมาแล้วกอดคอกันไปเป็นเพื่อนกันต้องไม่รังเกียจกัน แต่ช่วงนี้เราต้องห่วงครอบครัว หากติดมาครอบครัวก็จะติดไปด้วย คนในครอบครัวทุกคนเลิกดื่มหมดแล้ว แม้กระทั่งลูกเขยเขาก็ยอมเลิกดื่มเหล้าด้วย “ครอบครัวเรา ไม่เมาไม่เสี่ยง”

ลุงสวองกล่าวต่อว่า.. การเกิดโรคระบาดในประเทศไทยตั้งแต่รอบแรกจนกระทั่ง ในระรอกที่ 2 นี้ เศรษฐกิจการท่องเที่ยวซบเซา ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยน้อย บางคนตกงาน ขาดรายได้ แต่สำหรับครอบครัวเราก็ยังอยู่ได้ ครอบครัวเราทำสวนเกษตร ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ใช้ชีวิตตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง ครอบครัวเราก็เลยไม่ต้องกังวลเรื่องผลกระทบของรายได้มากนัก พอมี พอกิน ใช้จ่ายประหยัดจึงไม่ขัดสนโดยเฉพาะในช่วงการเกิดวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้

 

นักสื่อสาร องค์กรสุขภาวะ