สุรินทร์- จัดเวทีสาธารณะ “งานช้างสุรินทร์สร้างสุขยกระดับการมีส่วนร่วมโดยคนสุรินทร์”

วันที่ 17 มีนาคม 2565  ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ สภาพลเมืองสุรินทร์  สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนล่าง (ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ศูนย์ประสานภาคีพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมกว่า 150 คน  จัดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องชาวจังหวัดสุรินทร์และมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ Thai PBS เพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมแล้วจะทำให้งานช้างสุรินทร์  ได้รับการพัฒนาสามารถสะท้อนอัตลักษ์ที่เป็นวิถีชีวิต  วัฒนธรรมและกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่สำคัญเป็นงานที่ปลอดปลอดเหล้าปลอดภัยทำให้คนสุรินทร์และนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอย่างมีความสุข

          นางลาวัลย์  งามชื่น กล่าวว่า สภาพลเมืองสุรินทร์ เป็นพื้นที่กลางที่พยายามประสานความร่วมมือกับทั้งภาครัฐ  ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม  โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันคิด  ร่วมกันออกแบบ เพื่อทำให้คนสุรินทร์มีสุขภาวะที่ดี  การที่จังหวัดสุรินทร์ได้จัดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องชาวสุรินทร์ในครั้งนี้  เพราะอยากเห็นการพัฒนารูปแบบการจัดงานช้างสุรินทร์  ที่มีคนสุรินทร์มีส่วนร่วม และคนสุรินทร์ได้ประโยชน์  เพราะ “มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” จัดขึ้นที่สนามแสดงช้างเป็นประจำทุกปี แต่การจัดงานในช่วงหลาย 10 ปีมานี้ มีภาคีเครือข่ายชาวสุรินทร์ หลายภาคส่วนสะท้อนว่า รูปแบบการจัดงานเปลี่ยนไป ไม่ได้เน้นวิถีชีวิตระหว่างคนกับช้าง หรืออาจเรียกได้ว่าขาดอัตลักษณ์ของการเป็นเมืองช้างสุรินทร์ รวมไปถึงขาดการมีส่วนร่วมของคนสุรินทร์อย่างแท้จริง

          นายบำรุง  เป็นสุข สคล.ภาคอีสานตอนล่าง กล่าวว่า

ในช่วงปี 2549-2553 มีการเก็บข้อมูลความรุนแรงในงานช้างสุรินทร์  พบว่ามีลูกหลานที่มาเที่ยวงานเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 4-6 คนต่อปี ข้อมูลสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ในปี 2553 มีการทะเละวิวาท 168 ครั้ง เกิดอุบัติเหตุ 89 ครั้ง และมีเด็กเยาวชนเสียชีวิต 6 ราย ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ทางเครือข่ายองค์กรงดเหล้าร่วมกับประชาสังคมสุรินทร์สร้างสุข  จึงได้เก็บข้อมูลรับฟังความคิดเห็นว่า “คนสุรินทร์อยากเห็นงานช้างเป็นอย่างไรหากจะจัดงานช้างปลอดเหล้าเห็นด้วยหรือไม่” ซึ่งร้อยละ 98  พี่น้องจังหวัดสุรินทร์อยากให้จัดงานปลอดเหล้าเพื่อสร้างความปลอดภัย  หลังจากนั้นได้นำข้อมูลเข้าในการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดสุรินทร์ จนกระทั่งปี 2554 จังหวัดสุรินทร์ประกาศให้งานช้างสุรินทร์เป็นปลอดเหล้า  ตลอดเวลา 10 ปี ผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่สำคัญไม่มีการเสียชีวิตของเด็กเยาวชนงานอีกเลย  ดังนั้นจึงอยากให้งานนี้เป็นงานช้างสุรินทร์สร้างสุขที่ปลอดเหล้าปลอดภัยต่อไป

          ดร.ประภาพร  บุญปลอด อาจารย์จากสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์  กล่าวว่า

ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นมาทางสถาบันได้ร่วมออกแบบเครื่องมือเพื่อสำรวจความคิดเห็นในช่วงการจัดงานช้างของคนสุรินทร์-นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงาน จำนวน 985 คน ร้อยละ 76.24 เป็นชาวสุรินทร์ ร้อยละ 14.31 เป็นคนจังหวัดอื่นที่อาศัยในจังหวัดสุรินทร์ ร้อยละ 9.45 เป็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ  พบว่าระดับความพึงพอใจ 3 ระดับจากมากไปหาน้อยเกี่ยวกับ 1)อาหารที่นำมาเลี้ยงช้างมีความปลอดภัยพึงพอใจระดับปานกลางร้อยละ 40  รองลงมาระดับมากร้อยละ 37.50 รองลงมาระดับมากที่สุดร้อยละ 11.57  2) ประเภทร้านค้าในงานช้างมีความหลากหลายและเหมาะสม พึงพอใจระดับปานกลางร้อย 31.84 รองลงมาระดับน้อยร้อยละ 21.41  รองลงระดับน้อยที่สุดร้อยละ 9.85  3) กิจกรรมเชิงวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ พึงพอใจระดับปานกลางร้อยละ 32.80 รองลงมาระดับน้อยร้อยละ 27.30  รองลงระดับน้อยที่สุดร้อยละ 8.62  4) ร้านอาหารในบริเวณงานช้างมีความหลากหลายและสะอาดถูกสุขอนามัย พึงพอใจระดับปานกลางร้อยละ 31.37 รองลงมาระดับน้อยร้อยละ 18.17  รองลงระดับน้อยที่สุดร้อยละ 8.12  5) ประชาชนมีบทบาทในการร่วมแสดงความคิดเห็นในการออกแบบการจัดงานช้างแฟร์ งานเลี้ยงอาหารช้างและงานแสดงของช้างพึงพอใจระดับน้อยร้อยละ 49.45 รองลงมาระดับปานกลางร้อยละ 30.56  รองลงระดับมากร้อยละ 9.03  6)ควรเพิ่มให้มากขึ้นในงานกาชาด งานช้างแฟร์จังหวัดสุรินทร์ มากที่สุดภาพเก่าเล่าเรื่องช้าง ข้าหอมมะลิ ผ้าไหมและวิถีคนสุรินทร์ร้อยละ 62.59 รองลงมาการออกบู๊ธสินค้าและของดีชุมชนร้อยละ 59.78  รองลงลำดับสามภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองสุรินทร์ร้อยละ 49.65  รองลงลำดับสี่การประกวดและแสดงภาพสถานที่ท่องเที่ยวเมืองสุรินทร์ร้อยละ 49.45  รองลงมาระดับห้าการแสดงกันตรึม /กันตรึมออเคสตร้า ร้อยละ 45.65 

          ดร.คุณภัทร ศรศิลป์ กล่าวว่า

ข้อมูลความพึงพอใจในช่วงการจัดงานสอดคล้องกับข้อมูลจากการโฟกัสกรุ๊ปเพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มใน  7 กลุ่มคือกลุ่มชาวช้าง  กลุ่มศิลปิน-วัฒนธรรม กลุ่มสื่อมวลชน กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ธุรกิจ โรงแรม กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มเกษตรกรปลูกข้าวและผลิตผ้าไหม และกลุ่มเด็กเยาวชน จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบข้อเสนอเพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมและมีความเป็นไปได้ในการพัฒนาให้งานช้างเป็นมหัศจรรย์งานช้าง ที่สะท้อนอัตลักษณ์  วิถี วัฒนธรรมของคนสุรินทร์อย่างแท้จริง  คือควรมี

1) กลไกกลางหรือคณะกรรมการจัดงานที่องค์ประกอบจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชาวช้างและภาคประชาสังคมในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อร่วมกำหนดรูปแบบงาน 

2) เตรียมงานและมีการประชาสัมพันธ์ก่อนถึงวันจัดงานไม่ให้กระชั้นชิด

3) รูปแบบการจัดงานควรส่งเสริมให้คนสุรินทร์ใส่ผ้าไหมมาเที่ยวงานช้าง และจัดโซนบู๊ธของอำเภอ โซนวัฒนธรรมลาว เขมร กูยและจีน  โซนผลผลิตข้าว ผ้าไหม โซนอาหารถิ่นและโซนส่งเสริมการแสดงออกของเด็กเยาวชนที่สร้างสรรรค์ 

4) จัดเส้นทางการท่องเที่ยวปลอดภัยที่เชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกบริเวณจัดงานช้างให้สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมชาวช้างบ้านตากลาง ปราสาทศีขรภูมิ และช่องจอม ตลอดปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดสุรินทร์

5) งานเลี้ยงอาหารช้าง ควรรับซื้อและส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอาหารปลอดภัยให้สอดคล้อง “สุรินทร์เมืองเกษตรอินทรีย์”

6) งานช้างสุรินทร์ต้องเป็นงานปลอดเหล้าปลอดภัยเพราะสถานที่จัดงานเป็นสถานที่ราชการที่ต้องปฏิบัติการตามพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปี 2551 

7) ควรกำหนดสัดส่วนผู้ประกอบการร้านค้าในงาน และเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการที่คนสุรินทร์  ได้เข้ามาจำหน่ายผลิตผลและสินค้าท้องถิ่นให้มากขึ้น  และควรเก็บค่าเช้าบู๊ธจำหน่ายสินค้า  ค่าจอดรถให้ถูกลง  และค่าผ่านประตูเข้าชมงานให้ถูกลง

          นายพรชัย  มุ่งเจริญพร   นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์  ในนามของคนสุรินทร์

มีความภูมิใจที่ไปไหนมาไหนเรียกเราว่าคนเมืองช้าง และช้างยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย อบจ.มีความพยายามให้ช้างสุรินทร์ กลับคืนถิ่นแล้วสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ สำหรับการทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการจัดงานประจำปี  อบจ.จะมีการทำงานเกี่ยวช้างอยู่อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การแต่งงานบนหลังช้าง วันช้างไทย ประเพณีสงกรานต์แสดงช้างกลางปี  ซึ่งการแสดงช้างในแต่ละปีเพียงแค่ 2 วัน ซึ่งไม่เพียงพอ  จึงมีนโยบายที่จะทำอย่างไรให้ 636 วัน มีการแสดงช้างทุกวันหรือมากที่สุด  จึงมีแนวคิดที่จะสร้างปางช้างในเมือง  ทำให้มีการแสดงช้างได้มากขึ้น และมีการนำเอาประเพณีต่างๆและมวยไทยที่คนสุรินทร์มีชื่อเสียงมาประกอบ  ซึ่งคนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงมวยไทยในต่างชาติได้รับการยอมรับมาก แต่พอกลับมาบ้านเรากลับไม่ได้รับความสนใจ สิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดขาย  ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวช้างมีอาชีพและรายได้เลี้ยงตนเองได้

          แบรนด์แขมร์สะเร็น  คนสุรินทร์ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันตีโจทย์และมาช่วยกันสร้าง  เพื่อเพิ่มมูลค่าและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับคนสุรินทร์  บ่อยครั้งที่ไปประชุมที่กัมพูชา  พูดเขมรออกไปนิดหน่อยชาวกัมพูชาจะชี้มาทันทีว่ามาจากสุรินทร์  มันทำให้เราคิดว่านี่คืออัตลักษณ์ของชาวสุรินทร์  ชาวสุรินทร์นั่งอยู่ในใจเขาแล้ว  ดังนั้นวันนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีประชาชน ได้ทำให้มีการรับฟังความคิดเห็นเพื่อช่วยกันสะท้อนคิด  สะท้อนทำในการพัฒนางานช้างสุรินทร์สร้างสุข ร่วมกัน

          หลังจากนี้  สภาพลเมืองสุรินทร์  จะรวบรวมและสังเคราะห์ข้อคิดเห็นต่างๆให้เป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย และจะมีเวทีการแชร์  การเชื่อม เพื่อให้เกิดเป้าหมายร่วมและทำให้ “งานช้างสุรินทร์สร้างสุขยกระดับการมีส่วนร่วมโดยคนสุรินทร์” และคนสุรินทร์ได้ประโยชน์อย่างแท้จริงต่อไป

กองบรรณาธิการ SDNThailand