“ถ้าเรายังดื่มแบบนี้เราจะอยู่กับหลานไม่นาน”
นางบุญโฮม กำเนิดกาลึม
ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว สมัยมีงานม่วนซื่น เป็นวัยรุ่นอายุราวๆ 20 ปี ตามงานสังสรรค์และงานเลี้ยง รวมถึงงานบุญในหมู่บ้าน จะมีการดื่มกัน จึงเริ่มดื่มตั้งแต่ตอนนั้นเรื่อยๆมา ตอนนั้นในวัดก็มีการดื่ม เพราะยังไม่มีการห้ามดื่มในวัดและยังไม่มีงานบุญปลอดเหล้าเหมือนสมัยนี้ เลยสังสรรค์กับเพื่อน 5-10 คน ยิ่งเพื่อนเยอะ ยิ่งสนุก เสียค่าเหล้า-เบียร์ บางครั้ง 100-200 บาทบ้าง บางทีก็หมดเป็น 1,000 บาทเหมือนกัน แล้วแต่โอกาส
ผลกระทบจาการดื่ม สุขภาพไม่ดี การเงิน ครอบครัว เวลาไปดื่มกับเพื่อนก็ไม่กลับบ้าน ทำให้ลูกและสามีต้องไปตามกลับบ้าน และตัวเองมีโรคประจำตัวด้วย จึงคิดว่าตัดสินใจเลิก แต่ก็คิดอยู่ถ้ากินเบียร์ไม่ได้กินสปายแทนดีไหม ตนเองก็ยังจิบเบียร์บ้าง ดื่มสปายบ้าง ตอนนั้นแต่ก็มีผลต่อสุขภาพ ซึ่งตนเองเมื่อก่อนก็เข้าร่วมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ทุกๆปี แต่พอออกพรรษาก็กลับไปดื่มอยู่
แล้วเลิกเหล้าตอนไหน?
เมื่อปี 2560 จึงตัดสินใจเลิกตลอดชีวิต ได้รับกำลังใจจากครอบครัวและตัวเองมีหลานด้วย เลยคิดว่า
“ถ้าเรายังดื่มแบบนี้เราจะอยู่กับหลานไม่นาน”
อีกอย่างในชุมชนเรามองไปรอบๆ คนนั้นก็เลิกได้ คนนี้ก็เลิกได้ เราก็เลยอยากเลิกบ้าง ซึ่งเทคนิคตนเองในการเลิก คือ ค่อยๆลดปริมาณการดื่ม จาก 1 ขวด ก็เหลือ 1 แก้ว แล้วก็ละ และก็เลิกดื่ม ด้วยความที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบ เวลาไปดื่มสังสรรค์ กลับมาบ้านก็จะมีอาการไอ ไม่สบายบ้าง สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจนเลย คือ หลังจากที่เลิกดื่มแล้วมีสุขภาพดีขึ้น มีเงินเหลือเก็บ จากที่เราจะจ่ายค่าเหล้า ก็สามารถเอาเงินเก็บนี้ไปทำอย่างอื่นได้ด้วย และตอนนี้ตนเองก็มีการพูดคุยกับน้องสาว ชวนคนในหมู่บ้าน ลด ละ เลิกเหล้า โดยที่มีตนเองเป็นแบบอย่าง