Creative Skill Workshop (CSW) ตอน AI Power Skill เสริมพลังการสื่อสารด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ


Creative Skill Workshop (CSW) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเอบีน่าเฮ้าส์
กรุงเทพมหานคร มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 20 คน ประกอบด้วย ตัวแทนนักสื่อสารจากแต่ละภูมิภาค และเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางโพธิ์แก้ว โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อยกระดับศักยภาพด้านการสื่อสารผ่านการประยุกต์ใช้ AI และนวัตกรรมดิจิทัล มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและการผลิตสื่อที่ทรงพลัง สร้างผลกระทบได้ในทุกแพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดกิจกรรมผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ การเขียนข่าวและบทความที่ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม การออกแบบสื่อสร้างสรรค์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบผ่านระบบ SDN Map Portal และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ทำงานด้านสื่อจากหลากหลายพื้นที่
บอกกล่าวกิจกรรม CSW ตอน AI Power Skill วิทยากรโดย คุณศุภกิตติ์ คุณา

การอบรมครั้งนี้มุ่งเน้นการเสริมศักยภาพการทำงานและการสื่อสารผ่านการประยุกต์ใช้ AI และเครื่องมือดิจิทัลสมัยใหม่ โดยเริ่มต้นจากการอธิบายพื้นฐานเกี่ยวกับ AI ว่า “คืออะไร” พร้อมเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง Machine Learning (ML), Deep Learning (DL) และ Generative AI เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจโครงสร้างและการทำงานของเทคโนโลยีเบื้องหลัง การจัดระดับความฉลาดของ AI ตามโมเดลที่พัฒนาโดย OpenAI ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ตั้งแต่ระบบพื้นฐานจนถึงระบบที่มีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์ อีกส่วนสำคัญคือการเรียนรู้หลักการสร้าง Prompt อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถสื่อสารกับ AI ได้ตรงเป้าหมาย และได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการมากที่สุดหลักการสร้างคำสั่ง (Prompt) ถือเป็นหัวใจสำคัญในการนำไปประยุกต์ใช้กับ AI ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือ AI หลากหลายที่สามารถช่วยยกระดับกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะในด้านการสื่อสาร การผลิตสื่อ และการสรุปข้อมูล ตัวอย่างเครื่องมือที่น่าสนใจ ได้แก่ ChatGPT และ Claude.ai เครื่องมือสนทนาอัจฉริยะที่สามารถสรุปรายงาน ถอดเสียง ประมวลผลข้อมูล แลแทรกเสียงประกอบได้ โดย Claude.ai มีจุดเด่นด้านภาษาที่เป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับมนุษย์ และสามารถให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นเมื่อเทียบกับ ChatGPT Google NotebookLM ช่วยในการสรุปข้อมูล จากเอกสารจำนวนมาก และรวบรวมเนื้อหาให้อยู่ในรูปแบบที่ใช้งานสะดวก Perplexity.ai เน้นการค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก โดยเฉพาะด้านงานวิจัยและวิชาการ พร้อมจัดทำบรรณานุกรมให้อัตโนมัติ Microsoft Copilot และ Google AI Studio ช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาวิเคราะห์ข้อมูล และจัดการงานเอกสาร Canva AI เสริมความสามารถในการออกแบบกราฟฟิกและสื่อสร้างสรรค์โดยใช้ AI ช่วยคิด คำอธิบาย และสร้างภาพให้สอดคล้องกับเนื้อหา เครื่องมือเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการทำงานให้รวดเร็ว มีคุณภาพ และสื่อสารได้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
CSW การเก็บข้อมูลใน SDN Map Portal วิทยากรโดย คุณยงยุทธ ยอดจารย์

การบรรยายเริ่มต้นด้วยการแนะนำระบบ SDN Map Portal ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลในระดับพื้นที่ เพื่อใช้ในการวางแผน ติดตาม และสื่อสารผลการดำเนินงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและมีประสิทธิภาพจากนั้น วิทยากรได้อธิบายถึงวิธีการเก็บข้อมูลและการบันทึกข้อมูลในพื้นที่ โดยเน้นการป้อนข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงกับสถานการณ์จริง และการนำข้อมูลมาใช้งานต่อยอด เช่น การสนับสนุนการทำข่าว การจัดทำสื่อสารสาธารณะ และการสร้างเนื้อหาที่อ้างอิงจากข้อมูลเชิงประจักษ์

จากนั้นในภาคปฏิบัติ (Workshop) มีการฝึกใช้ระบบ SDN Map Portal อย่างเป็นขั้นตอน พร้อมให้นำเสนอผลงานของแต่ละกลุ่ม และเปิดช่วงถาม-ตอบ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแก้ไขข้อสงสัย ช่วงท้ายของกิจกรรม มีแบบทดสอบวัดความเข้าใจ จากเนื้อหาและกิจกรรม มีการแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงาน การใช้เครื่องมือสนับสนุนการสื่อสารและการพูดคุยถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านสื่อสารในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในยุค AI มนุษย์จะยืนอยู่ตรงจุดไหน?

คุณธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เทคโนโลยี AI ที่กำลังแพร่หลายในสังคม โดยเฉพาะในแง่มุมของความท้าทายและการปรับตัวของมนุษย์ต่อโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คุณธีระได้ชวนตั้งคำถามและชวนคิดว่า AI จะสามารถเข้ามาแทนที่การทำงานในหลายสาขาได้หรือไม่ แม้กระทั่งงานที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ลด ละ เลิก เหล้า ซึ่งเป็นงานที่ต้องอาศัยความเข้าใจของมนุษย์และความสัมพันธ์ทางสังคม รวมทั้งคุณธีระยังได้เปรียบเทียบปรากฏการณ์นี้กับกรณีศึกษาของกล้องฟิล์มและโทรศัพท์มือถือ Nokia ที่เคยรุ่งเรืองแต่กลับหายไปจากตลาดอย่างรวดเร็ว เพราะไม่สามารถปรับตัวทันต่อการเปลี่ยน รวมถึงบทบาทของ AI ที่เริ่มเข้ามาช่วยในด้านสุขภาพ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การคัดกรองกลุ่มเสี่ยง และการสนับสนุนงานทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยโรค หรือแม้แต่การผ่าตัดที่มีแนวโน้มจะดำเนินการโดยระบบ AI ในอนาคต อย่างไรก็ตาม คุณธีระยังเน้นว่า “มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ” โดยเฉพาะการเรียนรู้ ป้อนข้อมูล และกำหนดทิศทางให้กับ AI เพื่อให้ระบบสามารถวิเคราะห์และให้คำตอบที่ลึกซึ้งและมีความหมายได้อย่างครอบคลุม ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและวิถีชีวิตของผู้คน และนี่คือจุดเปลี่ยนของยุคสมัย และเป็นจุดสูงสุดของการพัฒนาเทคโนโลยีที่มนุษย์ต้องเผชิญและปรับตัวอย่างรู้เท่าทัน
ข้อจำกัดและข้อควรพิจารณาในการประยุกต์ใช้ AI
การประยุกต์ใช้ AI เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานนั้น สามารถทำได้โดยใช้พลังของ AI และนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อยกระดับการทำงานสื่อสาร โดย AI ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมศักยภาพมนุษย์ ไม่ใช่มาทดแทนมนุษย์ ดังนั้นข้อจำกัดและข้อควรพิจารณาในการประยุกต์ใช้ AI คือ 1.AI ทำงานบนพื้นฐานของข้อมูลที่มีอยู่และสามารถให้ข้อมูลที่ผิดได้หากฐานข้อมูลที่ได้รับไม่สมบูรณ์หรือมีอคติ 2.คุณภาพของ AI ยังคงขึ้นอยู่กับการป้อนข้อมูลและการให้ Feedback จากมนุษย์ (“Human in the Loop”) 3.การใช้ AI อย่างชาญฉลาดและได้ผลลัพธ์ที่ดี มาจากการตั้งคำถามที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง และ 4. AI จากค่ายต่างๆ อาจแสดงผลที่แตกต่างกัน และความเร็วไม่ใช่ทุกอย่าง คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ ซึ่งอาจเรียกว่า “Slow Productivity”