อดีตสาวปาร์ตี้ เผยนาทีวิกฤต..ดื่มเหล้าจนน็อค

อดีตสาวปาร์ตี้ เผยนาทีวิกฤต..ดื่มเหล้าจนน็อคถูกหามส่งโรงพยาบาล ถึงกับต้องปั๊มหัวใจ ขอปรับพฤติกรรม เพื่อเปลี่ยนชีวิต พร้อมนำเรื่องราวในชีวิตเป็นอุทธาหรณ์

“มันเป็นภาพจำในสมัยเด็กๆ ที่ทำให้อยากดื่ม” นางสาวรัชนีกร สอนวงษ์ (เม็ดพลอย) เครือข่ายเยาวชน Stopdrink Network อายุ 23 ปี ได้กล่าวถึงวัยเด็กที่ผ่านมาว่า เคยไปงานบวช งานแต่ง งานบุญประเพณีต่างๆในชุมชนระแวกบ้าน เห็นผู้ใหญ่ ดื่มกินเหล้า เบียร์ และสนุกสนานเฮฮา มันเป็นความบันเทิงเสียยิ่งกว่าอะไร เลยอยากลองดื่มบ้าง แต่แม่ก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลา ดื่มไม่ได้ จึงเป็นความตั้งและคิดอยู่เสมอว่าถ้าโตขึ้น 18 ปีเมื่อไหร่ จะไม่รอรี จะต้องได้ดื่มเหล้า มันต้องสนุก อยากจะสนุกสนานแบบที่เห็นผู้ใหญ่เขาเป็นกัน จำได้ว่าตอนนั้นชวนเพื่อนเที่ยวในสถานบันเทิง ใช้ชีวิตในวัยเรียนกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ดื่มกินจนลืมจุดหมายของชีวิต

เคยดื่มเหล้าเมากลับบ้าน อาเจียรออกมา เรียกว่าหมดไส้หมดพุ่งแหละ ก็มีแม่นั้นแหละ ที่เป็นคนดูแล หาอะไรร้อนๆ ให้กิน อาบน้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่ครั้งนั้นก็ยังไม่ได้คิดที่จะหยุดดื่มหรือคิดสำนึกได้ และก็ยังคงดื่มต่อไป และเคยถึงขั้นโกหกแม่ว่าไปทำรายงาน ขอนอนบ้านเพื่อนแต่จริงๆแล้วแอบไปเที่ยวกลางคืน ที่ต่างจังหวัด และวันนั้นแม่เกิดสงสัยก็โทรตาม แต่แม่แค่โทรมาบอกว่าถ้าเมาก็ไม่ต้องกลับบ้านนะ  ตอนนั้นหนูคิดว่าหนูเป็น “แม่สาวปาร์ตี้ นักเที่ยวท่องราตรี” ไม่มีแฟน ไม่สนใจผู้ชาย แค่รู้สึกอยากจะสนุกให้สุด ใช้ชีวิตวัยรุ่นให้เต็มที่ โดยไม่เคยคิดว่าจะเกิดผลเสียกับชีวิตใดๆ จนกระทั่งวันหนึ่งดื่มกันแบบข้ามวันข้ามคืน ตั้งแต่ 2 ทุ่มของวันนี้ข้ามวันไปถึง 4 ทุ่มของอีกวันหนึ่งเลย เป็นเวลา 26 ชั่วโมง และครั้งนั้นเกิดอาการน๊อคในร้านเหล้า ถูกเพื่อนหามส่งโรงพยาบาล เข้าห้องฉุกเฉิน ด้วยในท้องมีแต่แอลกอฮอล์ล้วนๆ คุณหมอสั่งว่าห้ามดื่มเหล้าแล้วนะ  ตอนนั้นได้รักษาตัวอยู่ 3 วัน หนูรู้สึกว่าเบื่อ และเพื่อนๆก็รออยู่และยังอยากที่จะไปดื่มกับเพื่อนต่อ แบบว่ายังไม่เข็ด จนเพื่อนๆทักว่าทำไมเราดูโทรมๆ ดูบวมๆ ดูสภาพแย่ๆไป ซึ่งเราก็รู้สึกตัวเช่นนั้นว่ามันจริง พลังมันหดหาย จึงคิดว่าอาจจะต้องเลด งดเหล้าจริงๆ

ในช่วงเวลาหนึ่งที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงคือการได้มีโอกาสไปร่วมเข้าอบรม เรื่องกฏหมายพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับเยาวชน ที่จังหวัดพิษณุโลก ที่มีโอกาสเพราะเป็นสมาชิกสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตาก ก็เลยได้เข้าปรึกษาโดยเข้าไปพบคณะทำงานจังหวัดตาก เพื่อขอโอกาสมาร่วมทำงานด้วย ครั้งนั้นคิดว่าจะเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจได้ดีที่สุดแล้ว เมื่อได้โอกาสจากพี่ๆ เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก SDN Thailand ในเครือข่ายงดเหล้าเยาวชนจังหวัดตาก กิจกรรมทำให้ได้เรียนรู้ในการทำงานได้เห็นบางสิ่บางอย่าง โดยเอาตัวออกมามอง หลังจากนั้น เริ่มตัดเหล้าออกจากชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้ แค่ไม่ดื่มและเราก็มีโอกาสได้ดูแลเพื่อนๆอีกด้วย

วันนี้ เราเริ่มเปลี่ยนทัศนคติของเราที่ผ่านมาในเรื่องดื่ม กิน เที่ยว เพื่อความสนุกสนาน..แบบปลอมๆ.. โดยการหยุดดื่ม และหันมาคิด หันมาเริ่มจริงจังกับการทำงานจิตอาสาเพราะในช่วงที่ได้ไปขอเข้าร่วมทำงานกับ เครือข่ายงดเหล้า จังหวัดตาก พี่เขาได้พาทำกิจกรรมเยี่ยมบ้านผู้ป่วย เลยมีโอกาสได้สัมผัสกับคุณลุงคุณป้าที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ด้วยความสงสัยก็ได้สอบถามที่มาที่ไปว่าพวกท่านมาถึงจุดนี้ได้ไง คำตอบที่ได้แทบจะ 90 % เลยที่มาจากการดื่มเหล้า จากวันนั้นมาก็ทำให้รู้สึกว่าเราต้องเลิกให้ได้ และเมื่อคิดอย่างนั้น เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงๆ วันนี้ได้เป็นตัวแทนเยาวชนทำกิจกรรม สื่อสารงานรณรงค์งดเหล้า เวลาเราจะออกไปรณรงค์ พูดกับใคร หรือเตือนใครๆ เราก็พูดได้เต็มปากแล้วเพราะว่า..ฉันเองก็ทำได้.. ส่วนแม่ของเรา ท่านก็ยังปลื้มใจเลย ที่เราทำได้ หยุดที่จะดื่ม ได้อยู่บ้านกินข้าวกับแม่ดูแลกันและกัน สำหรับเพื่อนๆที่เคยดื่มด้วยกันตอนนี้ก็เริ่มเบาๆลง หันมาเห็นด้วยที่จะเลิกดื่มเพื่อสุขภาพที่ดีต่อไป

อยากเชิญชวนน้องๆ เพื่อนๆเยาวชนว่า สิ่งแวดล้อมในยุคสมัยนี้ อาจใช้ความสนุกบัญเทิง เป็นสิ่งเร้าล่อหลอก ยั่วยุให้เรานำพาตัวเองเข้าไปสู่วงจรนักดื่ม สำหรับความคิดตอนนั้น ก็อาจจะอยากสนุกสนานที่จึงเกิดความพลั้งเผลอไปในช่วงวัยรุ่น วัยคะนอง จนกลายเป็นความประมาทที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เหตุการณ์มากมายที่ทำให้เราต้องคิดทบทวนและเลิกทำลายสุขภาพตัวเองได้แล้ว ทั้งนี้หากเราตระหนักให้มากขึ้น หยุดคิดซักนิดก่อนที่จะก้าวออกไปในทุกๆด้าน เราก็จะมองเห็นอะไรได้กว้างและไกลมากขึ้น

นักสื่อสาร องค์กรสุขภาวะ