ชาคริต จินะคำปัน-คนหัวใจเพชรชุมชนเกาะกลาง

คนสร้างสุข คนหัวใจเพชร แค่เลิกเหล้าก็เป็นสุข

ชาคริต จินะคำปัน

จากคนที่โดนตราหน้าว่าขี้เมา ไปทางไหน ก็ไม่มีใครยอมรับ กลายเป็นคนใหม่ ชาวบ้าน ให้การยอมรับ กลายเป็นตัวอย่าง เป็นที่ปรึกษา เกิดคุณค่าในตัวเอง ก็เพราะ “เลิกเหล้า” สำหรับคนติดสุราในระดับที่ติดหนัก การเลิกดื่มเหล้าไม่ใช่เรื่องง่าย  เพราะต้องได้รับความไม่สบายกาย ไม่สบายอารมณ์ระหว่างเลิก โดยต้อง อดทนและผ่านไปให้ได้ แต่เมื่อลด ละ เลิกได้แล้วช่วงหนึ่ง สิ่งที่ยากยิ่งกว่า คือ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะกลับไปดื่มอีก หรือจะเลิกดื่มไปให้ได้ตลอด  ดังนั้น คนที่สามารถเลิกดื่มเหล้าได้ตลอดชีวิต และปฏิญาณที่จะ ไม่กลับไปดื่มอีก อย่าง“คนหัวใจเพชร” คนต้นแบบเลิกเหล้าของ สสส.  ต้องนับถือและชื่นชมว่าเป็นผู้ที่มีหัวจิตหัวใจที่เข้มแข็งมาก ที่สามารถ ก้าวข้ามด่านที่ยากลำาบากมาได้ โดยแลกกับการได้มาซึ่ง “ความสุข” ที่จีรังยั่งยืนจากการเลิกดื่ม เช่นเดียวกับ “ชาคริต จินะคำปัน” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านเกาะกลาง และคนหัวใจเพชรบ้านเกาะกลาง ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่สามารถเลิกดื่มเหล้ามาได้ต่อเนื่องนานกว่า 5 ปี และได้ รับเกียรติเป็นคนหัวใจเพชร ได้ยืนยันว่า

สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาจากการเลิกดื่ม คือ  “ความสุข” ความสุขในที่นี้ คือ สุขทั้งกายและใจ โดยชาคริต ระบุว่า การดื่มเหล้านั้นอาจจะสนุกประเดี๋ยวประด๋าว แต่หลังจากนั้น กลับกลายเป็นต้นตอของความทุกข์ ผลมาจากการดื่มหนักชาคริต บอกเล่า ประสบการณ์ว่า ตนนั้นเริ่มดื่มมาตั้งแต่ อายุ 20 ปี โดยดื่มกับเพื่อน ๆ  โดยพ่อเป็นคนซื้อมาให้วันละครึ่งขวด เพราะไม่อยากให้ ดื่มมากไป แต่ความเป็นจริง เมื่อดื่มทุกวัน แค่ครึ่งขวด มันไม่เพียงพอ ทุก ๆ วัน หลังเลิกงานตอนเย็นก็จะมี การชักชวนไปดื่มกันตลอด เมื่อดื่มร่างกายก็แย่ลง จนวันหนึ่งหน้ามืดเป็นลม รู้สึกตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลซึ่งมันก็ทำาให้เกิดความเครียดตามมา

จากขี้เหล้า ตัดสินใจหักดิบเลิกเหล้า กับผลข้างเคียงที่ตามมา

ชาคริต เล่าอีกว่า นอกจากนี้ การดื่มหนัก ๆ เป็น คนขี้เหล้า ก็ทำาให้ไม่เป็นที่ยอมรับของคนในหมู่บ้าน และในสังคมด้วย ไปไหนมาไหนชาวบ้านก็บอกว่า ขี้เหล้า มาแล้ว หรือไม่ก็ ขี้เมามาแล้ว ทำาอะไรก็ไม่ไว้ใจ ไม่มีใคร ชอบสักเท่าไหร่นัก ส่วนสาเหตุที่ทำาให้เลิกเหล้าแบบจริงจัง ชาคริต  บอกว่า ก็มีทั้งเรื่องไม่เป็นที่ยอมรับ และเรื่องของ ครอบครัวด้วย เพราะหากพ่อเสียชีวิตก็จะเหลือกันอยู่ แค่ 3 คน เนื่องจากคุณพ่อเองก็ป่วยเป็นกระดูกทับเส้น  ทำาให้ไปไหนมาไหนลำาบาก ที่ผ่านมาคุณพ่อก็พยายามให้ เลิกเหล้ามาตลอด ซึ่งพ่อชาคริต เป็นคนไม่ดื่มอยู่แล้ว  จึงกลับมาคิดว่าควรจะเลิกดื่มเหล้าแบบจริงจัง ก็เลย ตัดสินใจ “หักดิบ” เลิกเหล้า โดยใช้เวลาประมาณ 3 เดือน  จึงสามารถเลิกดื่มเหล้าได้

“ช่วงที่หยุดดื่ม ช่วงแรกก็จะมีอาการสั่น นอน ไม่ค่อยหลับ โดย 3 เดือนแรกผมมีอาการนอนไม่หลับ สั่น  แต่พยายามคิดว่า การดื่มมันไม่มีผลดีอะไรเลย และให้ กำาลังใจตัวเองว่า ช่วงที่เลิกดื่มจะมีอาการอะไรช่างมัน  แต่ผมจะไม่เข้าไปยุ่งหรือเข้าไปดื่มอีก ก็อาศัยกินข้าว  ไปเลี้ยงไก่ หากิจกรรมทำาเพื่อไม่ให้อยากดื่ม ซึ่งหลังจาก  3 เดือนที่เลิกก็ดีขึ้น สามารถนอนหลับได้อย่างสบาย ร่างกายได้พักผ่อน ไม่มีโรคอะไรตามมา” ชาคริตกล่าว

เมื่อเลิกเหล้า เริ่มปรับปรุงตัวใหม่ ชาคริต ยอมรับว่า ความสุขเริ่มกลับมา และกลับมามีความสุขมากกว่าเดิม  เพียงแค่เลิกดื่มก็มีความสุขได้ ถือเป็นการสร้างความสุข ให้แก่ตัวเอง เมื่อร่างกายดีขึ้นก็ไม่เครียด สามารถทำา กิจกรรมต่าง ๆ ได้ กลายเป็นที่ยอมรับในสังคม จากที่ เคยโดนว่าว่าขี้เหล้า ตอนนี้ก็มีแต่คนรักคนชอบ และได้รับ การเปิดโอกาสให้เราเข้ามาช่วยงานสังคม บางคนก็พูดว่า

“ผ่อเล๊าะไอ่นี้มันเลิกเหล้า” “แต่ก่อนไอ่คริต บ่อไจ๋คนจะอี้  ผ่อล่อตอนนี้เป็นคนใหม่แล้ว” คำพูดเหล่านี้กลายเป็น กำลังใจอย่างไม่รู้ตัว ไม่เพียงแค่สร้างสุขภายในกายและใจที่ดีให้แก่ตนเอง ชาคริต  ยังส่งต่อการสร้างสุขนี้ไปยังคนในชุมชนด้วย โดยการชักชวนคนดื่มให้เลิกเหล้าเช่นกัน โดยหลังจากเลิกดื่มเหล้าได้ ก็ได้ชักชวนคนเลิก ดื่มเหล้าไปได้แล้วหลายคน ส่วนใหญ่ก็เป็นคนในหมู่บ้าน เพราะ ประสบการณ์ของชาคริต เป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นได้อย่างชัดเจน  ว่าติดเหล้าไม่ดีอย่างไร เลิกเหล้าดีอย่างไร ซึ่งการช่วยให้คนอื่น เลิกเหล้าก็ถือเป็นสิ่งที่ชาคริตต้องการทำเพื่อช่วยเหลือให้คนอื่นได้ กลับมามีความสุขเหมือนตนเองอีกครั้ง

“สิ่งที่ไม่ดีเราก็ต้องบอกเตือนคนอื่น เพราะเรามีประสบการณ์ โดยตรง ซึ่งหากใครยังเลิกไม่ได้ ผมจะใช้วิธีบอกให้เพลา ๆ ลง ลดการดื่ม ลงมา หากมีความอยากที่จะดื่ม ก็ให้กินข้าวแทน เพราะพอเรากินข้าว เสร็จจะรู้สึกอิ่ม พอเห็นเหล้าก็แค่เหล้าเฉย ๆ ความอยากก็จะหายไป  พอเห็นคนชวนดื่มเหล้าก็บอกกลับไปว่าดื่มเลย กินข้าวมาแล้ว” ชาคริต กล่าว

สำหรับคนที่อยากจะเลิกเหล้า ชาคริต ในฐานะคนที่เคยติดเหล้า  และใช้ความพยายามในการเลิกเหล้า จนกลับมามีความสุขอีกครั้ง ได้ชี้ว่า “การเลิกเหล้าผมมองว่าเป็นการสร้างสุขให้แก่ตนเอง เพราะทำาให้ สุขภาพกายก็ดี สุขภาพจิตก็ดี กลับมาเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม เป็นการสร้างสุขให้แก่ครอบครัวด้วย เพราะหลายครอบครัวก็มีปัญหา จากการดื่มเหล้า จากนี้ก็ยังคงเดินหน้าช่วยชักชวนและเชียร์ให้คนอื่น เลิกเหล้าเลิกดื่มต่อไป เพราะเลิกเหล้าแล้วชีวิตดีขึ้นจริง ๆ ประสบการณ์ ของผมก็เป็นตัวอย่างที่ดี” ชาคริตกล่าว

สิ่งที่อยากบอก คือ การดื่มเหล้าเป็นสิ่งที่ไม่ดี ถ้าเลิกได้ก็จะเป็น เรื่องที่ดีต่อตนเอง ดีต่อสุขภาพตนเอง สิ่งที่คนหัวใจเพชรพยายามบอก ก็คือ ทุกคนสามารถกลับมามีความสุขอีกครั้งได้ คนที่คิดอยากจะเลิก ก็ขอให้เลิกได้ ขอให้สู้ ๆ คนหัวใจเพชรทุกคนจะเป็นกำลังใจให้เข้าพรรษานี้อยากให้กำลังใจคนใกล้ชิดให้ลด ละ เลิกการดื่ม ได้สำเร็จไปพร้อมกัน